จากกรณีนายเฉลิมเกียรติ ดีเสาวภาคย์ ซื้อคอมพิวเตอร์แบบพกพาหรือ โน้ตบุ๊คยี่ห้อ hp มาจากบู๊ตนิทรรศการทางคอมพิวเตอร์ที่จัดแสดงที่กรุงเทพมหานคร พร้อมกับซื้อประกันไว้กับบริษัทจำนวน 1 ปี การใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ยี่ห้อดังกล่าวก็เป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา คุณเฉลิมเกียรติได้นำเอาคอมพิวเตอร์โน๊ทบุคเครื่องดังกล่าวไปซ่อมบำรุงเปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่างที่ศูนย์บริการ hp หาดใหญ่ การให้บริการก็ดำเนินการไปด้วยดี คุณเฉลิมเกียรติ รับเครื่องคอมพิวเตอร์มาเพื่อใช้งาน ต่อมาพบว่าบานพับหน้าจอเริ่มหลวม จึงติดต่อประสานงานไปยังศูนย์บริการอีกครั้ง
จึงส่งช่างประจำศูนย์มารับเครื่องคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เพื่อมารับเครื่องกลับไปที่ศูนย์ ภายหลังทางศูนย์โทรศัพท์แจ้งคุณเฉลิมเกียรติว่า พบรอยไขควงจำนวนมาก มีการแตกของขอเกี่ยวบานพับฝาเปิดของเครื่องคอมพิวเตอร์หากจะเปลี่ยนใหม่ต้องจ่ายเงินค่าอะไหล่ราคา 5,000 บาท ลดให้ได้ไม่เกิน 5 % และทางศูนย์จะไม่ขอรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับที่ศูนย์รับเครื่องมาซ่อมครั้งก่อน
ทางครอบครัวคุณสมศรี นั้นบอกด้วยความสัจจริงว่า "คงไม่มีเหตุผลใดที่จะแกะเพื่อซ่อมแซมคอมพิวเตอร์เอง ทั้งนี้เพราะ
1.ทางครอบครัวไม่มีใครมีความรู้และชำนาญกับการซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ แม้แต่ไขควงซักอันก็ไม่มี คงไม่ไปเสี่ยงกับการต้องไปซ่อมเองและประกอบกับ
2.ลูกชายเองก็ซื้อประกันไว้กับศูนย์บริการของ hp อยู่แล้วและเป็นประกันแบบซ่อมที่บ้านด้วย
3.ผู้บริโภคท่านนี้มีความเชื่อถือในบริษัท hp มาตลอด แต่เมื่อได้รับการปฏิบัติโดยมิได้คำนึงถึงสิทธิผู้บริโภคเลย ตนเองและครอบครัวเสียความรู้สึกมาก เช่น ผู้จัดการศูนย์hpสาขาหาดใหญ่ พูดเชิงท้าทายให้ไปฟ้องร้องเอาถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือการบอกปัดความรับผิดชอบที่เคยมีกับลูกค้า ไม่สมกับความเชื่อถือที่เธอมีให้กับบริษัท
ทางคุณสมศรี ดีเสาวภาคย์ คุณแม่ของคุณเฉลิมเกียรติ จึงติดต่อประสานไปยังศูนย์บริการของhp เกิดเป็นข้อพิพาทขึ้น ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงนำไปสู่การฟ้องร้องคดีผู้บริโภคdi