วันที่ 3 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภ.3 และคณะร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคีดฉ้อโกง คือ นายณสกพล สุวรรเมธาชัย อายุ 34 ปี พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์จำนวน 3 เครื่อง แฟ้มสัญญาทางการเงิน จำนวน 44 เล่ม สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ ที่มีจำนวนเงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท
หลังจากวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีประชาชนจำนวนกว่า 80 คน เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมร ทองกลาง พนักงานสอบสวน สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ให้ดำเนินดคีกับนายณสกพล กับพวกที่เปิดบริษัท บุญธณถาวร จำกัด หลวกลวงประชาชนให้นำเงินมาร่วมลงทุนธุรกิจซื้อทองคำ ในตลาดทองคำหุ้นละ 1 แสนบาท ภายในระยะเวลา 180 วัน แล้วจะได้เงินที่ร่วมลงทุนจำนวน 1 แสนบาทคืนทั้งหมด ระหว่างที่นำเงินมาร่วมลงทุนจะได้ค่าความเสี่ยงในการลงทุนให้วันละ 240 บาท ใน 1 เดือน ในระยะแรกนายณสกพลได้ให้ผลตอบแทนอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 3-4 เดือน นายณสกพลไม่ได้ให้ผลตอบแทนและเมื่อผู้ที่ร่วมลงทุนขอถอนหุ้นออกก็ไม่ได้รับเงินจำนวน 1 แสนบาท ที่ร่วมลงทุนไว้
จากการสืบสวนทราบว่านายณสกพล เปิดบริษัท บุญธณถาวร จำกัด แต่ไม่ได้ทำธุรกิจซื้อทองคำในตลาดทองคำจริง เป็นแต่เพียงการตั้งบริษัทบังหน้า เพื่อเอาไว้หลวกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อ เนื่องจากเมื่อประมาณ 3 ปี ที่ผ่านมา นายณสกพลเคยบวชเป็นพระลูกวัดอยู่ที่วัดดินอุดมมงคลธรรม อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และพูดจาชักชวนโน้มน้าวให้ชาวบ้านมาร่วมลงกับกับบริษัทที่เปิดไว้ก่อนที่จะเข้ามาบวช ในขณะที่นายณสกพล บวชอยู่นั้นได้ให้ญาติพี่น้องของตนเข้ามาดำเนินการให้และเมื่อมีผู้เข้ามาร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก ต่อมา เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมานายณสกพลจึงลาสิขาบทเพื่อเข้ามาดำเนินการเอง
พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภ.3 สั่งการให้มีการติดตามนายณสพกลมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชน และมีจำนวนเงินที่ได้รับความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท ในที่สุดก็จับกุมนายณสกพลฯ ได้ที่ บริษัท บุญธณถาวร จำกัด ที่ตั้งอยู่ภายในตัวอ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เบื้องต้น นาณสกพลให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าทำตรวจจึงตรวจยึดเอกสารประกอบคดีเป็นจำนวนมาก
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ออนไลน์ ฉบับวันที่ 3 ธันวาคม 2553