เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

เพื่อนบ้านของฉัน Lisa and Peter มีประสบการณ์เกี่ยวกับการซื้อรถยนต์

มันเกิดจากความไม่รู้ประสา พวกเขาซื้อรถยนต์ Honda-Civic และได้ปฏิเสธข้อเสนอของพนักงานขายในการจ่ายเงินกว่า $1,575 เพื่อขยายเวลาการรับประกันรถเป็น 7 ปี หรือ 80,000 miles ซึ่งปกติแล้วการรับประกันนี้จากโรงงานผู้ผลิต มักให้เพียง 3 ปี

วันต่อมา รถยนต์คันที่เพิ่งซื้อมานั้น start ไม่ติด เครื่องยนต์เกิดขัดข้องทำให้ Lisa ลองคิดดูใหม่ว่า เธอน่าจะขยายเวลาการรับประกันตลอดไปหลังจากซื้อรถซะเลย แล้วดูซิว่ายังจะมีปัญหาอะไรมาอีกมั๊ย?

Lisa ได้ไปค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต และได้พบว่า เธอสามารถซื้อการขยายเวลารับประกันเช่นเดียวกันนี้ได้จาก ผู้จำหน่าย ใน Florida ด้วยราคาเพียงครึ่งจากที่เธอได้รับข้อเสนอ

ผู้คนบนโลกอินเตอร์เน็ตสามารถขายสินค้าและบริการต่างๆได้ แม้ว่าเป็นการทำสัญญากันในระดับ lower rates ก็ตาม

เจ้าของรถยนต์ควรจะทำยังไงล่ะ?

ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน และเริ่มมองหาทาง แล้วก็พบว่าตัวฉันเองก็สับสนในเรื่องของการใช้ถ้อยคำ กฎหมายและการฟ้องร้อง

ฉันเริ่มเข้าใจเกี่ยวกับข้อความนั้นชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเจอ consumer reports ซึ่งเป็นข้อความทั่วๆไป เป็นการให้เหตุผลในการสนับสนุนว่า การขยายเวลาการรับประกันรถยนต์ใหม่เป็นการซื้อขายที่แย่มาก การสำรวจและ Report จะถูกตีพิมพ์ทุกปีในเดือนเมษายน และพบว่าราว 65% ของ 8,000 คนที่อ่าน Consumer Reports ได้กล่าวว่า พวกเขาได้จ่ายเงินจำนวนมากไปกับค่าประกันรถ มากกว่าที่จะเก็บไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ

มีเพียง 5% ที่พวกเขาสามารถประหยัดเงินได้ และมี 42% ของการขยายเวลาการรับประกัน ที่ไม่เคยถูกใช้เลย

การขยายเวลาการรับประกัน เป็น “แหล่งกำไรหลักของผู้จำหน่ายประกัน” Rik Paul ซึ่งเป็น automotive editor ของ Consumer Reports กล่าว สิ่งนอกเหนือจากนี้คือ โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้

จำหน่ายได้เงินประมาณ $800 ในแต่ละกรณีที่ขายการขยายเวลารับประกัน นอกจากนี้ โรงงานผู้ผลิตเสนอว่ามันเป็นเครื่องกระตุ้นให้บริษัทผู้ขายได้ขายการรับประกันนี้มากเท่าที่เป็นไปได้

การขยายเวลาการรับประกัน เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า เมื่อเกิดปัญหาที่ร้ายแรงขึ้นหลังจากที่การรับประกันเดิมจากบริษัทได้หมดลง พวกเขาจะยังได้รับการคุ้มครองอยู่ และไม่จำเป็นต้องขวนขวายหาความคุ้มครอง ในเรื่องค่าซ่อมรถจากที่ไหนอีก

ถ้าเป็นเช่นนั้น ควรแนะนำอะไรสำหรับคนเหล่านั้นล่ะ?

สิ่งแรกเลย, รอคอย. มันไม่มีเหตุผลหรือไม่จำเป็นเลยในการซื้อการขยายเวลาการรับประกันรถ แม้ว่าบริษัทผู้ขายมักพูดบ่อยๆว่า มันถูกกว่า เมื่อคุณซื้อรถยนต์คันใหม่ เพราะคุณจะได้รับข้อตกลง ที่ดีกว่า เมื่อรถยังอยู่ในสภาพดี

“แท้จริงแล้ว, มันอาจจะได้รับประโยชน์มากกว่า ถ้าเรารอคอย” Philip Reed, senior consumer advice editor for Edmunds.com กล่าว เหตุผลหนึ่งที่เขากล่าวคือ “เมื่อการรับประกันถูกรวมเข้ากับราคาที่ซื้อรถ, มันง่ายมากเลยสำหรับพวกเขาที่จะซ่อนหรือปิดบัง true cost ที่คุณจ่ายไปได้”

โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณสามารถซื้อการรับประกันเพิ่ม เมื่อการรับประกันเดิมได้หมดอายุลง หลังจากที่คุณขับรถมาสักปีหรือสองปี คุณจะรู้ว่า คุณต้องการการขยายเวลาการรับประกันนานแค่ไหน ถ้าดูเหมือนว่าคุณต้องการการซ่อมแซมที่มากมาย จะได้ทราบว่าควรซื้อการประกันนานเท่าไหร่

มันไม่เป็นความจริงเลยที่คุณจะซื้อการขยายเวลาการรับประกันรถเพื่อที่จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเหมือนที่ผู้บริโภคบางคนบอก Mr.Reed กล่าว

ถ้าคุณตัดสินใจซื้อการขยายเวลาการรับประกัน คุณยังคงมีทางเลือก โดยอาจจะ ซื้อมันโดยตรงจากบริษัทผู้ขายรถเลย หรือว่าซื้อจากทางอินเตอร์เน็ต คุณสามารถที่จะซื้อการขยายเวลาการรับประกันซึ่งถูกขายและส่งกลับโดยโรงงานผู้ผลิตได้ หรือคุณยังสามารถหาบริษัทอิสระ ที่เป็นที่รู้จักกันในนามบริษัทประกันรถยนต์หลังการขาย

ทั้ง 2 อย่างสามารถเสนอระดับของการคุ้มครองได้ เช่น ค่าเปลี่ยนอะไหล่บางส่วน , คุ้มครองการเกิดรถชนกัน ซึ่งจะคุ้มครองมากกว่าประกันเบื้องต้น ราคาก็จะขึ้นอยู่กับชนิดของการคุ้มครอง

มันสำคัญมากในการอ่าน ข้อความให้ละเอียด และควรรู้ว่า เราจะได้อะไร ตัวอย่างเช่น ต้องจ่ายเงินครั้งแรกสำหรับค่าซ่อมรถเป็นเงินเท่าไหร่ และการชดใช้ หรือได้รับเงินคืนเป็นเท่าไร? ถ้ามีการขายรถสามารถโอนการรับประกันได้หรือไม่? จำเป็นต้องไปติดต่อบริษัทผู้ขายเมื่อซ่อมรถหรือไม่? กล่าวโดย Craig Kimmel, นักกฎหมายในPennsylvania ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องช่องโหว่ของการประกันและการ claims ประกัน

“คุณควรจะไปหาการประกัน G.M. สำหรับรถ G.M. car ” Mr.Kimmel กล่าว “ถ้ามันไม่ใช่การรับประกันโดยตรงจากโรงงานผู้ผลิต เราแนะนำให้ต่อต้านมัน”

Mr.Kimmel กล่าวว่า กว่า 20 ปีที่ผ่านมา เขาแน่ใจว่าได้นำเสนอ “อย่างน้อย1,000คน” ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสัญญาการขยายเวลาการรับประกันของบริษัทอิสระ ซึ่งไม่สามารถที่จะซ่อมรถได้

มีการเผยแพร่เรื่องของบริษัทอิสระที่รับประกัน ถึงเรื่องการล้มละลายของบริษัท ปีที่แล้วบริษัท Ohio-based เรียกได้ว่าเป็นการล้มละลายของการรับประกันเลยก็ว่าได้ เป็นเงิน $45 ล้าน และมีลูกค้ากว่า 137,000 คน ดังนั้นถ้าคุณทำประกันกับบริษัทที่ล้มเหล่านี้ คุณอาจจะต้องติดอยู่กับบ่วงที่แย่ๆนั้นด้วย

กฎหมายมีความสัมพันธ์กับบริษัทมากน้อยแปรไปตามรัฐ

แม้ว่าจะไม่มีผู้เชี่ยวชาญ ฉันบอกว่า น่าจะมีการแนะนำให้ บริษัทที่รับประกัน consumers บางท่านได้รายงาน good service และ cheaper deals ของบริษัทอิสระนั้น. Edmunds.com แนะนำบนweb site ว่า “ให้พิจารณาถึงสถานะความมั่นคงทางการเงินของบริษัท ซึ่งถูกกำหนดโดย A.M. ว่าอยู่ในสถานะที่ดีมาก standard หรือ ย่ำแย่”

แม้ว่ามันดูเหมือนได้เปรียบสำหรับฉัน คุณเองก็สามารถซื้อการรับประกันของโรงงานผู้ผลิตจาก ผู้จำหน่าย ในรัฐอื่นที่สามารถให้การคุ้มครองรถของคุณได้ และมันก็ยังถูกกว่าถึง 100 dollars การประกันของโรงงานผู้ผลิตที่ถูกกฎหมายเป็นสิ่งที่ดี และมันไม่มีอะไรผิดถ้าจะซื้อการรับประกันนั้นผ่านทางonline

Dave Taylor ผู้ที่สร้าง blog www.askdavetaylor.com, from Boulder, Colo., เขียนถึงการซื้อการขยายเวลาการรับประกันรถของเขาสำหรับ Toyota Prius. ผู้จำหน่ายของเขา เสนอเขาด้วยราคา $1,750 แต่เขาพบว่าผู้จำหน่ายรายหนึ่งใน Massachusetts ขายเพียง $750

Mr.Taylor รอราว 2-3 เดือน และได้ติดต่อกับ Massachusetts dealership อีกครั้ง พบว่าราคาลดลงเหลือ $690 และเขาจึงซื้อการรับประกันนี้

Wow! เป็นเสียงจากผู้บริโภคว่ามันดีมากเลย แต่มันกลายเป็นว่าผู้ขาย Honda สิ้นท่าไปเลยหลังจากลูกค้าที่ซื้อรถใหม่บอกว่า พวกเขาสามารถซื้อการขยายเวลาการรับประกันรถในราคาครึ่งหนึ่งในอินเตอร์เน็ต ดังนั้นผู้ขาย Honda จึงขอร้องให้ Honda หยุดการรับประกันที่มีนโยบายขายทาง online

อีกด้านหนึ่ง Chris Martin, ผู้แทนของ American Honda Motor Company อธิบายว่า Honda ได้วางนโยบายที่เป็นเครื่องกระตุ้นตัวแทนจำหน่าย ให้ขายการขยายเวลาการรับประกันเท่าที่ทำได้

“ตัวแทนจำหน่ายบางแห่งใจป้ำ กล้าได้กล้าเสีย และมีการทำการตลาดที่ดี” โดยการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตนอกเหนือจากขอบเขตของตลาด Mr.Martin กล่าวว่า “การปฏิบัติเช่นนี้เป็นการทำผิดทางเทคนิคของข้อตกลงระหว่างตัวแทนจำหน่ายกับ Honda ”

Mr.Martin กล่าวว่า Honda เข้าใจว่าการขายรถของคนที่เล่นรถ มักทำผ่านอินเตอร์เน็ต แต่เขายังบอกว่า การขายการขยายเวลารับประกันรถทาง online นั้น อาจจะลดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนจำหน่ายกับเจ้าของรถ

Honda แก้ตัวเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวว่า ความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่น หรือความสัมพันธ์ที่ดีนั้น ไม่สามารถขายได้ผ่านonline จึงมีการตอบสนองของ Carol Saccucci เจ้าของ Saccucci Auto Group ใน Rhode Island ว่าจะทำการฟ้อง Honda

“เราต้องทำกำไรในขณะที่เราสามารถทำกำไรได้” Ms.Saccucci กล่าว “อะไรก็แล้วแต่ทางอินเตอร์เน็ตนั้นมักไม่ค่อยขึ้นราคา เราขายรถทาง online เราเป็นส่วนหนึ่งของอินเตอร์เน็ต แต่สิ่งที่เราไม่เข้าใจก็คือ ทำไมเราไม่สามารถขายการรับประกันนี้ผ่าน onlineได้”

Ms.Saccucci ผู้ที่ขายการรับประกันไปให้ผู้คนนับพันผ่าน online นาน 2 ปีมาแล้ว บอกว่าเธอยังคงขายการรับประกันผ่านอินเตอร์เน็ตให้กับตัวแทนจำหน่าย Ford แต่ก็ไม่มีปัญหาแบบนี้

28 มีนาคม , ศาลสูงสุดของ the Rhode Island ออกคำสั่งควบคุมชั่วคราวโดยกล่าวว่า Honda ไม่สามารถเปลี่ยนนโยบายนี้เพื่อป้องกัน Saccucci จากการขายการขยายเวลาการรับประกันผ่านonline ทาง Hondaเองก็คอยฟังข่าวจากทางศาล ซึ่งมีข่าวแว่วมาว่า จะดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนปลายเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนมีการบังคับใช้กฎใหม่ของตัวแทนจำหน่าย Mr.Martin กล่าว

ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็กลับมาที่เพื่อนบ้านของฉัน Lisa และ Peter พวกเขาควรทำอย่างไรล่ะ?

เธอเองก็ยังครุ่นคิดอยู่ ทางเลือกที่ง่ายที่สุด น่าจะเป็นข้อแนะนำหนึ่งจาก consumer reports: วางเงิน $1,500 - $2,000 เมื่อคุณซื้อรถ จากนั้นคุณก็ tap มัน ถ้าคุณจำเป็นที่ต้องจ่ายเงินสำหรับการซ่อมแซมรถ แต่ถ้าคุณไม่เคยใช้บริการมันเลยคุณต้องลดจำนวนเงินที่จะจ่ายลงอีกสำหรับการซื้อรถคันต่อไป

สรุปประเด็น

• การที่ Honda ผูกขาดกับตัวแทนจำหน่ายในการขายประกันและไม่มีนโยบายการขายทางอินเตอร์เน็ต ทำให้ผู้บริโภคเสียเปรียบ โดยต้องซื้อประกันในราคาที่แพงกว่าการซื้อจากบริษัทอิสระหรือซื้อจากทางอินเตอร์เน็ต ผู้บริโภคมีสิทธิ์ในการเลือกซื้อสินค้าหรือบริการเอง
• ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่เข้าใจถ้อยคำ หรือข้อความที่เป็นภาษากฎหมายทำให้เกิดความสับสนและเป็นความเสี่ยงที่จะถูกผู้แทนจำหน่ายใช้เล่ห์เหลี่ยมในการขายประกัน
• ในบทความนี้มีหน่วยงานที่เป็นองค์กรอิสระ คือ Consumer Reports ซึ่งมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากโดยมีประสบการณ์จากผู้บริโภคจำนวนมากและความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายซึ่งช่วยให้คำแนะนำผู้บริโภคในการตัดสินใจว่าควรทำเช่นไร ต้องพิจารณาอะไรบ้างในการซื้อประกันรถยนต์ เช่น ต้องพิจารณาบริษัทประกันว่ามีสถานะเป็นอย่างไร น่าเชื่อถือหรือไม่ การเลือกประกันควรเลือกแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับแต่ละคน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าใจเรื่องการประกันรถยนต์ได้ง่ายกว่าการอ่านกฎหมายของการซื้อประกันโดยตรง