เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

ภายหลังจากศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภคจังหวัดสงขลาและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ได้มีหนังสือหารือไปยังคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เกี่ยวกับความชอบธรรมในการเรียกเก็บ 107 บาท กรณีผิดนัดชำระค่าไฟฟ้า แล้วนั้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2553 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม สจรส.มอ. ชั้น 10 ตึกทรัพยากรการเรียนรู้ (LRC) โดยมี นายบพิตร ร้อยกรอง ผู้อำนวยการไฟฟ้าเขต 3 ยะลา และคณะทีมงานของการไฟฟ้าในจังหวัดสงขลาเกือบทุกแห่งเข้าร่วมการหารือ

เภสัชกรสมชาย ละอองพันธุ์  ผู้ประสานงานศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภคจังหวัดสงขลา ได้กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์ที่มีผู้บริโภคจำนวนหนึ่งหารือผ่านรายการแลบ้านแลเมือง วิทยุ มอ. 88.0  MHz. เรื่อง ความไม่เป็นธรรมจากการถูกเรียกเก็บเงิน 107 บาท  จนมาสู่การหารือและทำความเข้าใจร่วมในวันนี้

คุณบพิตร ร้อยกรอง ผู้อำนวยการไฟฟ้า เขต 3 ได้กล่าวว่าภายหลังที่คณะกรรมาธิการสิทธิฯ ได้มีหนังสือให้ชี้แจงไปใน 3 ประเด็น นั้น ขณะนี้  กฟภ.ได้ทำหนังสือชีแจงไปแล้ว โดยสรุป คือ การเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 107 บาทนั้น มีระเบียบที่การไฟฟ้าว่า ด้วยการใช้ไฟฟ้าและบริการ พ.ศ.2552 รองรับแต่มิได้เป็นการเรียกเก็บเป็นค่าดอกเบี้ยเงินคงค้างชำระการใช้ไฟฟ้า แต่เป็นเพียงค่าธรรมเนียมและค่าจ้างบริษัทภายนอกในการดำเนินการงดจ่ายไฟฟ้า ระเบียบบอกต่ออีกว่า จะเรียกกเก็บได้เมื่อมีการตัดสายออกจากมิเตอร์ไฟฟ้าแล้วเท่าน้น ระยะเวลาที่ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องชำระเงินต้องดำเนินการภายใน 10 วันนับตั้งแต่ได้รับใบแจ้งค่าไฟฟ้า(และมีการออกข้อกำหนดเพิ่มเติมจากสคบ.ยืดเวลาออกไปอีก 3 วัน) การไฟฟ้าจะงดจ่ายไฟฟ้า โดยผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องชำระค่าธรรมเนียม 107 บาท เพื่อเป็นค่าดำเนินการต่อมิเตอร์กลับ

อัยการเลอศักดิ์ ดุกสุกแก้ว รองอัยการประจำจังหวัดสงขลา กล่าวถึงประเด็นว่า ในส่วนข้อโต้แย้งที่ กฟภ.ชี้แจงว่ามีระเบียบรองรับนั้น จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ต้องรอการพิจารณาอย่างรอบด้านและชี้ขาดจากคณะกรรมาธิการสิทธิฯวุฒิสภา แต่พฤติกรรมที่ กฟภ.ปฏิบัตินั้น พบว่า จะเรียกเก็บ 107 บาท ที่เคาเตอร์ชำระค่าไฟฟ้า เลย มิได้รอให้มีการตัดมิเตอร์จริง ถือเป็นการไม่ได้กระทำตามระเบียบที่วางไว้ที่ว่า การตัดไฟฟ้าต้องดำเนินการโดยการเอาสายลงเท่านั้น

แต่ที่น่าสังเกต คือ ทำไม...การไฟฟ้านครหลวงมิได้ เรียกเก็บ 107 บาท  จากผู้ใช้ไฟที่ผิดชำระหนี้ และยังไม่ทันถูกตัดมิเตอร์ไฟฟ้า ...ส่วน กฟภ.ในจังหวัดสงขลาและอื่นๆกลับ เรียกเก็บทันที ซึ่งถือว่า มีความไม่ชอบมาพากล

คุณประสิทธิ์ จันลำพู เครือข่ายผู้บริโภค กลุ่มพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคบ้านพรุ กล่าวถึง การถูกเอาเปรียบที่ได้รับจากหน่วยงานรัฐ อย่าง กฟภ. เช่น ถูกตัดมิเตอร์แล้วส่งผลกระทบต่อทรัพย์สิน และชีวิตของผู้ป่วยในภาวะวิกฤต เป็นต้น มองเห็นว่าเป็น การเอาเปรียบเชิงนโยบาย มีการผลักภาระเกือบทุกอย่างให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้สืบเนื่องจาก การผูกขาดของ กฟภ.

ที่่สำคัญ คืออัยการเลอศักดิ์ ได้ขอให้ กฟภ.ปฏิบัติตามระเบียบที่วางไว้ พร้อมทั้งต้องบริหารจัดการให้เกิดความเป็นธรรมภายในองค์กร  แต่ กฟภ.ยังยืนยันว่า จะยังยืนยันเก็บ 107 บาท แม้ยังไม่ได้ตัดจริง
      ส่วนแนวทางต่อไปที่ต้องดำเนินการ คือ การฟ้องร้องเป็นกรณีศึกษา ของผู้บริโภค โดยใช้ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 อันจะนำมาสู่ความเป็นธรรมและเป็นบรรทัดฐานต่อไป