นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า จากมาตรการ เข้มงวดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการแก้ปัญหาการลักลอบขนยาแก้หวัดสูตรผสม สูโดอีเฟดรีน ออกนอกประเทศ เพื่อนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดให้โทษ นอกจากมีการควบคุม โดยกำหนดเพดานการซื้อวัตถุดิบเพื่อนำไปใช้ในการผลิตยาแก้หวัดสูตรผสมของผู้ผลิตแต่ละราย และการซื้อ วัตถุดิบเพื่อการส่งออก จะตรวจสอบหลักฐานประกอบการซื้ออย่างละเอียดแล้ว อย. ยังได้ขอความร่วมมือไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อประสานกับหน่วยงานปราบปราม ยาเสพติดในต่างประเทศ ในการตรวจสอบประวัติด้านยาเสพติดและพิสูจน์ความมีตัวตนทางกฎหมายของผู้นำเข้า หรือผู้สั่งซื้ออย่างละเอียด เพื่อป้องกันการแจ้งเอกสารอันเป็นเท็จ โดยล่าสุด อย. ได้รับรายงานว่ามีผู้ผลิต 2 ราย นำ หลักฐานประกอบคำขอซื้อและใบสั่งซื้อโดยระบุชื่อผู้นำเข้าหรือผู้สั่งซื้อที่ไม่มีตัวตนอยู่จริงในประเทศกัมพูชามาใช้ เป็นหลักฐานในการขอซื้อวัตถุดิบสูโดอีเฟดรีน ซึ่งในขณะนี้ อย. ได้ระงับการขายวัตถุดิบสูโดอีเฟดรีน เพื่อการ ผลิต ทั้งในประเทศและต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว และแจ้งดำเนินคดีต่อผู้ผลิตทั้ง 2 ราย ในข้อหาการใช้เอกสารเท็จ ซึ่งจะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ จะมีการนำเสนอ เรื่องต่อคณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เพื่อพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตต่อไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ได้รับทราบจากด่านแม่สาย จ. เชียงราย ว่า มีชาวพม่าลักลอบขนยาแก้หวัดผสมสูโดอีเฟดรีน จำนวน 3.4 ล้านเม็ด เพื่อส่งออกไปยังประเทศพม่า ซึ่งยาส่วนใหญ่ไม่มีการขึ้นทะเบียนตำรับยาในประเทศไทย เป็นการลักลอบนำผ่าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดและดำเนินคดีผู้ส่งออกทันที โดยมีโทษฐานครอบครองและส่งออกวัตถุออกฤทธิ์ ประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับตั้งแต่ 100,000 - 400,000 บาทและจำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี ซึ่งทาง อย. พร้อมกับทุกด่านในประเทศไทย จะติดตามเฝ้าระวังการลักลอบขนยาแก้หวัดสูตรผสมสูโดอีเฟดรีน ออกนอก ประเทศอย่างเข้มงวดใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อมิให้นำไปผลิตเป็นยาบ้าส่งกลับมาขายในประเทศไทย นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อในตอนท้ายว่า อย. ขอเตือนมายังผู้ประกอบการรายอื่น อย่าได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน อย่าได้แจ้งหลักฐานเท็จในการขอซื้อวัตถุดิบสูโดอีเฟดรีน เพื่อลักลอบนำไปใช้ ในทางที่ผิด นอกจากถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวดแล้ว อาจถูกพักใช้ใบอนุญาตมิได้ประกอบอาชีพด้าน นี้ รวมทั้ง ต้องควบคุมการจำหน่ายยาแก้หวัดที่มีสูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) เป็นส่วนผสมให้เป็นไปตาม ระเบียบที่ อย. พิจารณา โดยจัดทำทะเบียนคุมและจำหน่ายให้กับร้านยาในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อมิให้มีการ กว้านซื้อและนำไปใช้ในทางที่ผิดเป็นอันตรายต่อสังคม ขอให้พี่น้องชาวไทยมั่นใจการดำเนินงานของ อย. ในการ คุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัย มิให้ได้รับภัยร้ายแรงจากยาเสพติดให้โทษ หากพบเบาะแสการกระทำความผิด ดังกล่าว โปรดแจ้งร้องเรียนมาที่ สายด่วน อย. โทร. 1556
กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค 5 เมษายน 2553 ข่าวแจก 43 / ปีงบประมาณ 2553
Relate topics
- ไอเดียกระฉูด หนุนเพิ่มสมุนไพร 6 รายการเข้าตู้ยาประจำบ้าน
- อย.บุกซีคอนสแควร์จับเครื่องสำอางผิด กม.กว่า 10 ล้านบาท
- อย.เอาจริงดำเนินคดีผู้ประกอบการอาหารพบตะกั่วอื้อ
- นายกฯค้านระบบ"เมดิเซฟ"ชี้ไม่เหมาะขรก.ใหม่ ครม.ไฟเขียวตั้ง กก.คุมค่ารักษา ขรก. ลดงบฯเบิกจ่ายลง
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา จัดประชุม คป.สอ.สัญจร ครั้งที่ 7