ศัพท์วัยรุ่นที่มักจะติดปากอยู่คำหนึ่ง ที่ใช้ในความหมายเชิงว่า “เป็นเรื่องเล็ก, ไม่ควรค่าแก่ความสนใจมากนัก” หรือหมายถึง “เรื่องขี้ผง” ในปัจจุบันมักจะได้ยินขาโจ๋ทั้งหลายใช้วลีคำว่า “เรื่องสิวๆ” ทำให้ผู้ฟังหลายคนอนุมานเอาว่า อาจจะเป็นเพราะด้วยขนาดที่เล็กของสิว จึงเป็นที่มาของวลีวัยรุ่นดังกล่าว
...หากแต่ความจริงแล้วเรื่องของ “สิว” ไม่ได้เป็นเรื่อง “จิ๋วๆ” ตามขนาดของมัน...
และถึงแม้จะดูเหมือนว่าในยุคปัจจุบัน มนุษย์จำนวนมากในโลก ที่กำลังปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่กับปัญหาเจ้าจุดจิ๋วๆ บนใบหน้า หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า “สิว” นั้น จะมีทางเลือกในการขจัดสิ่งน่ากังวลนี้ออกไปได้มากขึ้น
เพราะปัจจุบันยารักษาสิวมีให้เห็นกันเกลื่อนทั้งหน้าจอทีวี วางขายตามร้านขายยา สถานเสริมความงาม ในบางแห่งเจอในร้านเสริมสวยก็มีขายให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นยาแต้ม ทา ไปจนถึง “ยากิน” จะเลือกยี่ห้อไหนก็สุดแล้วแต่
รศ.นพ.นภดล นพคุณ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ยารักษาสิวที่มาแรง และได้ยินกันบ่อยในช่วงนี้คือ “กรดวิตามินเอ” หรือชื่อสามัญทางยาว่า ไอโสเตรติโนอิน (Isotretinoin) เป็นยารักษาสิวที่ได้ผลดี ปัจจุบันในท้องตลาดมีจำหน่ายหลายยี่ห้อ ข้อดีของมัน คือ รักษาสิวได้เกือบจะทุกประเภท คนหน้ามันก็หน้าแห้งขึ้น เพราะยาทำให้ต่อมไขมันทำงานลดลง
รศ.นพ.นภดล เตือนว่า การซื้อยารักษาสิวมาใช้เองนั้นอันตราย เพราะยารักษาสิวไม่ได้มีฤทธิ์แค่รักษาสิวเท่านั้น แต่ยังเผื่อแผ่ผลข้างเคียงอื่นต่อร่างกายด้วย ตามมาอีกมากมาย นอกจากปากแห้ง ผิวแห้ง และลอก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่ต้องเจอประจำ
สิวหาย อย่างอื่นไม่หาย!
- คุณแม่ที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองตั้งท้อง แล้วยังกินยารักษาสิวตัวนี้อยู่ จะทำให้เด็กในท้องมีความผิดปกติ อาจจะพิการ หรือคุณแม่อาจจะแท้งได้ ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้คนที่เตรียมตัวเป็นแม่กินยานี้
- ตับมีปัญหา เพราะการกินยาพวกนี้จะทำให้ตับทำงานหนัก ถ้าไม่หยุดยาตับก็จะพัง
- สำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า สมองเบลอๆ อยู่แล้ว เมื่อได้รับยาตัวนี้อาจจะทำให้เกิดภาวะฆ่าตัวตายได้
- กระดูกปิดเร็วในเด็กอายุน้อย การกินยาสิวเร็วเกินไปจะทำให้เราหยุดสูงได้
สิวขั้นไหน ต้องกินยา?
มีคำถามว่าเป็นสิวขนาดไหนต้องไปหาหมอ ช่วงที่ดีคือระยะเริ่มต้นควรไปหาแพทย์ผิวหนัง เพื่อดูสาเหตุว่าเป็นสิวที่เกิดจากอะไร แล้วเลือกวิธีรักษา ส่วนใหญ่จะใช้ยาทาในกลุ่มที่เป็นน้อยๆ สิวหัวขาว หัวดำจะใช้ยาทายาฆ่าเชื้อ ส่วนสิวหัวขาว สิวหัวดำ และสิวอักเสบ กลุ่มนี้ทายาก่อน ถ้าทายาเอาไม่อยู่อาจจะเพิ่มยากิน เช่นพวกยาฆ่าเชื้อไล่เป็นลำดับ
ส่วนยา “กรดวิตามินเอ” จะให้ก็ต่อเมื่อยาแต้มไม่ได้ผล ซึ่งต้องเกิดจากการวินิจฉัย ซึ่งหมอจะสั่งยานี้ให้ก็ต่อเมื่อ มีคนไข้ที่มีสิวพุพอง หรืออักเสบเยอะ โดยอาจจะมียาตัวอื่นร่วมด้วย แล้วแต่ผลตรวจ
รู้ไว้ใช่ว่า!! ผู้ที่กินยาสิวอยู่ห้ามบริจาคเลือดเด็ดขาด เพราะในเลือดอาจมีการปนเปื้อนของตัวยาอยู่ หากนำไปให้คนท้องก็จะเสี่ยงได้ ดังนั้น ถ้าจะบริจาคได้ก็ต้องหลังจากหยุดยาดังกล่าวไปแล้วอย่างน้อย 1 เดือน
Relate topics
- รณรงค์เลิกใช้โฟม
- รายการสงขลามหาชน ตัวอย่างอาหารของแม่ ตอน " บทบาทของพ่อ " อาหารของแม่ สร้างความอบอุ่นของครอบครัวกับมื้ออร่อยที่แม่บรรจงปรุงเพื่อลูก
- ข่าวดีจะดัง ตอนที่ 265 โรงเรียนสุขภาพดี ของ อบต.ควนรู( http://youtu.be/KsuLA7Fguy8 )
- ข่าวดีจะดัง ตอนที่ 265 โรงเรียนสุขภาพดี ของ อบต.ควนรู(7 เม.ย 5…: http://youtu.be/KsuLA7Fguy8 )
- รายการอาหารของแม่ ตอน " อาหารคือภาคีและพื้นที่ " เปิดอร่อยด้วย ยำบัวบก สูตรสมุนไพรภูมิปัญญาถิ่น อบต.ท่าข้าม ของป้ายุพา ผลชนะ