เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

ผู้ว่าการ ธปท.เผยได้ข้อยุติปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมการให้บริการผ่านเอทีเอ็มแล้ว โอนแบงก์เดียวกันข้ามเขตฟรีครั้งเดียว ต่อไปคิด 15 บ. ถอนแห่งเดียวกันข้ามเขต ไม่เกินรายการละ 15 บ. ถอนและถามยอดต่างธนาคาร จว.เดียวกันปรับใหม่ให้ฟรี 4 ครั้งแรก ครั้งที่ 5 คิด 10 บ. ถอนข้ามเขตคิดอัตราไม่เกิน 20 บาท/รายการ ดีเดย์ต้นปีหน้า

นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 กันยายน ภายหลังการหารือร่วมกันกับสมาคมธนาคารไทยในงานเลี้ยงอำลาตำแหน่งผู้ว่าการ ถึงการปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมการให้บริการทางการเงินผ่านเครื่องกดเงินอัตโนมัติหรือเอทีเอ็มว่า ได้ข้อสรุปว่า 1. การโอนเงินในธนาคารเดียวกัน แต่ข้ามเขตจะให้ฟรีในครั้งแรกของเดือน ครั้งต่อไปคิดไม่เกิน 15 บาท จากเดิมที่ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่คิดในอัตราหมื่นละ 10 บาท และค่าบริการอีก 10 บาท คาดว่าจะบังคับใช้ภายในไตรมาส 1 ปี 2554

2.การถอนเงินในธนาคารเดียวกันแต่ข้ามเขต ปรับเป็นคิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 15 บาทต่อรายการ จากเดิมคิดในอัตราหมื่นละ 10 บาท และค่าบริการอีก 10 บาท คาดว่าจะเริ่มใช้ในไตรมาส 1 ปี 2554 3.การทำธุรกรรมถอนและถามยอดเงินผ่านเอทีเอ็มต่างธนาคาร แต่ในจังหวัดเดียวกันปรับใหม่ให้ฟรี 4 ครั้งแรกต่อเดือน ครั้งที่ 5 ขึ้นไปคิดไม่เกิน 10 บาท จากเดิมการถอนและถามยอดจะฟรีใน 4 ครั้งแรกต่อเดือน แต่ครั้งที่ 5 คิดอัตรา 5 บาท คาดจะเริ่มบังคับใช้ไตรมาส 2 ปี 2554 และ 4.การถอนเงินจากธนาคารข้ามเขต จะคิดในอัตราไม่เกิน 20 บาทต่อรายการ จากเดิมคิดในอัตราหมื่นละ 10 บาท แต่ขั้นต่ำคิดในอัตรา 20-25 บาทต่อครั้ง เริ่มบังคับใช้ไตรมาส 2 ปี 2554

นางธาริษากล่าวว่า ประเด็นการทำธุรกรรมการถอนและถามยอดผ่านเอทีเอ็มต่างธนาคารในจังหวัดเดียวกัน คนที่ได้ประโยชน์คือ คนต่างจังหวัดเนื่องจากเดิมการถอนเงินต้องเสียค่าธรรมเนียม 20-25 บาทต่อครั้ง ครั้งที่ 5 ขึ้นไปเสียเพิ่มอีก 5 บาท แต่คนกรุงเทพฯจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นอีก 5 บาท ในกรณีที่ทำธุรกรรมครั้งที่ 5 ขึ้นไป ทั้งนี้มองว่าลูกค้าในกรุงเทพฯมีทางเลือกที่จะใช้บริการเอทีเอ็มได้ในหลายจุด ถึงแม้ว่าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมแพงขึ้น ก็คาดว่าจะช่วยทำให้ธนาคารพาณิชย์ประหยัดต้นทุนได้

ขณะที่นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ผลกระทบจากการปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อรายได้จาก ค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์เป็นมูลค่าอยู่ในหลักร้อยล้านบาท ซึ่งธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้ง 5 แห่งได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากมีการลงทุนเรื่องอุปกรณ์ ทั้งนี้ ธนาคารจะต้องมีการหาช่องทางในการสร้างรายได้จากส่วนอื่นมาทดแทนรายได้ที่หายไป คาดว่าจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี ในการสร้างรายได้มาทดแทน