เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

ขออนุญาตตอบแบบสั้นๆนะครับ
(1.)สัญญาเกิดหรือยัง
  ตอบ  ผมไม่ได้เห็นตัวสัญญาวางมัดจำคุณนะครับ  แต่เข้าใจว่าตัวสัญญาคือสัญญาจะซื้อจะขายบ้านพร้อมที่ดิน และวางมัดจำไว้ด้วย  หากเป็นเช่นที่ผมกล่าว สัญญาจะซื้อจะขายเกิดแล้วครับ และผู้จะซื้อได้วางมัดจำไว้ เพื่อเป็นพยานหลักฐานว่าสัญญานั้นได้ทำขึ้นแล้ว ส่วนผลของการวางเงินมัดจำและเงินที่วางเงินจะจัดการอย่างอย่างไร ป.แพ่งและพาณิชย์บัญญัติในมาตรา 378 (เปิดอ่านด้วยนะครับ)  ซึ่งใน (3)บัญญัติว่า  ให้ส่งคืน ถ้าฝ่ายที่รับมัดจำละเลยไม่ชำระหนี้ หรือการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ายนี้ต้องรับผิด
    ซึ่งนั่นก็คือ เมื่อครบกำหนดส่งมอบบ้านตามสัญญาหากผู้จะขายคือเจ้าของโครงการไม่ส่งมอบ หรือส่งมอบบ้านไม่เป็นไปตามแบบที่ตกลงหรือไม่ได้มาตรฐานตามที่ตกลงกัน  ก็ถือว่า ผู้จะขายหรือเจ้าของโครงการผิดสัญญาจะซื้อจะขาย  ผู้จะซื้อหรือวางมัดจำไว้  มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและรับเงินมัดจำคืนได้
          แต่ในความเป็นจริง ท่านจะรอให้ส่งมอบบ้านไม่ได้ใชมั๊ยครับ เพราะคุณอาจต้องผ่อนดาวน์หรือไม่ก็แล้วแต่  แต่ก็ไม่อาจทนเห็นความหายนะที่จะเกิดกับตัวเองในอนาคตไม่ได้ใช่มั๊ยครับ  ดังนั้นทางแก้ อยู่ในข้อ 2 (2.)ต้องแก้ไขอย่างไร   ตอบ  หากบ้านที่ปลูกสร้างท่านไปเยี่ยมชมเป็นประจำ  และรู้ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือการสร้างบ้านผิดจากแบบแปลนที่ตกลงกัน ท่านก็ต้องเก็บหลักฐาน คือ
            1. ถ่ายภาพสิ่งผิดปกติ หรือสิ่งที่ท่านเห็นว่า จะเกิดความเสียหายหรือผิดข้อสัญญาอย่างแน่นอนไว้ และสิ่งดังกล่าวอาจจะไม่เห็นเมื่อส่งมอบบ้านเช่น  ขนาดเหล็กที่ไม่ตรงตามสเป็ก หรือในส่วนโครงสร้างที่มองไม่เห็น
            2.ทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดการทำผิดสัญญาแก่เจ้าของโครงการ และขอให้ผู้เป็นเจ้าของโครงการดำเนินการแก้ไข โดยมีระยะเวลาที่กำหนด  หากไม่ดำเนินการดังกล่าว ผู้จะซื้อขอใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและขอเงินมัดจำคืน และเรียกค่าเสียหาย แต่ท่านต้องเก็บสำเนาหลักฐานไว้ด้วยนะครับ
            3.หากท่านต้องจะต้องส่งเงินค่างวดอาจเป็นเงินดาวน์ก็ต้องแจ้งผู้จะขาย ตามข้อ 2. ก่อน ก่อนท่านหยุดส่งเงินดาวน์             4.หากยังไม่ยุติ หรือ เกิดข้อพิพาทขึ้น อาจฟ้องร้องต่อศาลเป็นคดีผู้บริโภค หรือร้องส.ค.บ. ครับ       ต้องขออภัยนะครับตอบทาง mail อาจไม่ละเอียดหรือคลุมปัญหาทั้งหมดได้ เพราะผมไม่ได้ซักถามคุณด้วยนะครับ