เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

เครือข่ายแพทย์มีมติที่ประชุมเรื่องร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ป่วยฯ เตรียมตั้งทีมทำงาน 9 คณะ ชี้แจง พ.ร.บ.ต่อประชาชน เผยขณะนี้แพทย์เห็นควรขยาย ม.41 ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ

      วานนี้ (27 ส.ค.) ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร สำนักงานปลัด กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แพทยสภาได้ร่วมกับตัวแทนจากภาคต่างๆ ประกอบไปด้วยตัวแทนจาก สธ. สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) กลาโหม ตำรวจ คณะแพทย์ศาสตร์ กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) กรุงเทพมหานคร สมาคมโรงพยาบาลเอกชน คลินิก แพทยสมาคม และภาคีสภาวิชาชีพอื่นๆ รวม 80 คน ประชุมคณะทำงานร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการบริการสาธารณสุข พ.ศ....โดยมี ศ.นพ.อาวุธ ศรีศุกรี ประธานกลุ่มสถาบัน กสพท. เป็นประธานคณะ, นาวาอากาศเอก (พิเศษ) นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา เป็นเลขาธิการ คณะทำงาน และมี พล.อ.ต.นพ.การุณ เก่งสกุล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพอาการ กรมแพทย์ทหารอากาศเป็นโฆษกประจำคณะทำงานฯ
      พล.อ.ต.นพ.การุณ กล่าวว่า เนื่องจากคณะทำงานฯ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ฉบับนี้ได้รับการประกาศใช้อาจมีผลกระทบต่อความเสียหายด้านค่าใช้จ่ายในระบบบริการสาธารณสุขไทยหลายล้านบาท ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งต่อผู้ป่วย ต่อแพทย์ และบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งบุคลากรทีให้บริการสาธารณสุขกว่า 3 แสนคน เห็นว่ามีข้อเสียมากว่าข้อดี ดังนั้น คณะทำงานฯ จึงได้มีมติในที่ประชุมร่วมกันว่าควรตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อระดมความคิดเห็นเฉพาะกลุ่มผู้ให้บริการทั้งหมด และจะแบ่งหน้าที่ดำเนินการให้ความรู้กับประชาชนในการเดินหน้าชี้เแจงเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ให้ประชาชนได้คิดและทำความเข้าใจเพิ่มเติม โดยจะจัดตั้งคณะทำงานเป็น 9 คณะ เพื่อดำเนินการดังกล่าว ซึ่งจะมีการประชุมภายในอีก 1 เดือนข้างหน้า โดยคณะกรรมการดังกล่าวนี้จะเฉลี่ยบุคลากรในสังกัดหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ 1.รพศ./รพท. 2.โรงเรียนแพทย์ 3.กรุงเทพฯ 4.แพทย์จากสี่เหล่า ได้แก่ แพทย์ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจ 5.แพทยสมาคม

      พล.อ.ต.นพ.การุณกล่าวด้วยว่า ในส่วนของประชาชนที่ยังกังวลว่าจะไม่มีเงินกองทุนช่วยเหลือเบื้อวต้นและชดเชยค่าเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขนั้น ขอชี้แจงว่า เงินกองทุนตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 นั้นมีอบยู่แล้ว โดยคณะทำงานฯเห็นว่า ควรขยายมาตราดังกล่าวให้ครอบคลุมประชาชนทั้งหมดของประเทศไทยก็เพียงพอแล้ว
      “อันนี้เป็นเพียงข้อสรุปเบื้องต้น ซึ่งทางคณะทำงานจะจัดส่งต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขต่อไปโดยเร็วที่สุด ส่วนข้อสรุปในขั้นสุดท้ายก็จะเร่งดำเนินการจัดประชุมต่อไป” พล.อ.ต.นพ.การุณกล่าว