เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

“หมอเสรี” ยัน รพ.ในสังกัด สธ.ไม่เข้าข่ายพฤติกรรมจ่ายยา ขรก.สูงเกิน ผอ.โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยต้องตรวจสอบทั้งระบบ

      จากกรณีเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตยาในระบบสวัสดิการข้าราชการ โดยอยู่ระหว่างหารือร่วมกับกรมบัญชีกลาง เพื่อรวบรวมหลักฐานการทุจริตและใช้ยาเกินความจำเป็นของแพทย์ เพื่อเตรียมยื่นฟ้องระดับผู้อำนวยการโรงพยาบาล และแพทย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการเบิกค่ารักษาพยาบาลสูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของรัฐนั้น
      ล่าสุดนพ.เสรี หงษ์หยก รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า ไม่มีโรงพยาบาลในสังกัด สธ.แม้แต่แห่งเดียวที่เข้าข่ายมีพฤติกรรมเบิกจ่ายยาเกินความจำเป็น เนื่องจากที่ผ่านมาได้กำชับมาโดยตลอดให้การเบิกจ่ายยาเป็นไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งการสั่งจ่ายยาแต่ละครั้งจะมีข้อบ่งชี้ชัดเจน และหากมีการดำเนินการนอกจากหลักเกณฑ์ก็สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด ส่วนมีโรงพยาบาลใดที่เข้าข่ายนั้น ตนไม่ทราบ ทราบเพียงว่าเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ไม่ใช่โรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่างที่เข้าใจกัน
      ด้าน นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผอ.โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ต้องชัดเจนก่อนว่า มีโรงพยาบาลใดที่เข้าข่าย แต่ในส่วนของ รพ.รามาธิบดี ซึ่งเป็นโรงเรียนแพทย์ และสังกัดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าวว่า มีบุคลากรทางการแพทย์คนใดเข้าข่ายกระทำความผิดตรงนี้ ซึ่ง รพ.จะมีระบบการประเมินการใช้ยาอย่างเหมาะสม โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการเภสัชกรรมบำบัด ทำหน้าที่ควบคุมกันเบิกจ่ายยา และมีการมอนิเตอร์กลุ่มยาที่มีค่าใช้จ่ายสูงอย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มยารักษากระดูกบาง ข้ออักเสบ โดยตรวจสอบตลอดว่ามีการใช้ยาเกินความจำเป็นหรือไม่ ผ่านการพิจารณาจากข้อบ่งชี้ในการใช้ยา
      นพ.ธันย์ กล่าวด้วยว่า หาก ป.ป.ท.จะสรุปผลการตรวจสอบ และจะมีการฟ้องร้องผู้อำนวยการโรงพยาบาล ตรงนี้ไม่ชัดเจนว่าเป็นโรงพยาบาลสังกัดรัฐ หรือโรงพยาบาลสังกัดคณะแพทยศาสตร์ เพราะหากเป็นโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ คงไม่สามารถฟ้องร้องเอาผิดผู้อำนวยการได้ เพราะไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง ซึ่งต้องเป็นคณบดีของแต่ละแห่งมากกว่า แต่ไม่ใช่ว่าจะปฏิเสธความรับผิดชอบ หากมีใครทำผิดจริงก็ให้เป็นไปตามขั้นตอน

      ผอ.โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวด้วยว่า ปัญหาการเบิกค่ารักษาพยาบาลสูงของกรมบัญชีกลางนั้น จริงๆ ต้องพิจารณาทั้งระบบ เพราะกฎระเบียบในการเบิกค่ายาของกรมบัญชีกลางยังมีช่องโหว่ ที่ทำให้มีการสวมสิทธิได้ ประกอบกับมีการเวียนเบิกยาตามโรงพยาบาลต่างๆ ตรงนี้กรมบัญชีกลางยังไม่มีการตรวจสอบ ดังนั้น การจะป้องกันปัญหาค่ารักษาพยาบาลสูงเกินจริงได้ ต้อง ตรวจสอบขั้นตอนต่างๆ ให้ดี