เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

'มี 5 สิทธิ' ที่ต้องได้ !

"จะผลักดันให้การคุ้มครองเป็นไปในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น กว่าเดิม” ...แว่ว ๆ ว่านี่เป็นการระบุของ องอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกับ หน้าที่ตามตำแหน่ง-ตามที่ได้รับการแบ่งงานนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ดูแลสื่อของรัฐบางส่วน แต่รวมถึงกำกับดูแลงานด้านการ “คุ้มครองผู้บริโภค” ด้วย

“ผู้บริโภค” จริง ๆ แล้วมีสิทธิสำคัญตามกฎหมาย
แต่กระนั้นผู้บริโภคจำนวนมากก็ “ถูกละเมิดสิทธิ”

ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน มาตรา 61 เป็นเรื่องของ “สิทธิของผู้บริโภค” ซึ่งเนื้อหาบางส่วนกำหนดไว้ว่า... สิทธิของบุคคลซึ่งเป็นผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครองในการได้รับข้อมูล  ที่เป็นความจริง และมีสิทธิร้องเรียนเพื่อให้ได้รับการแก้ไขเยียวยา ความเสียหาย รวมทั้งมีสิทธิรวมตัวกันเพื่อพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค
ขณะที่ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ก็ได้บัญญัติสิทธิของผู้บริโภคที่จะ “ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย” ไว้ 5 ประการ คือ.....
1. สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูก ต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการโฆษณาหรือการแสดงฉลากตามความเป็นจริงและปราศจากพิษภัย แก่ผู้บริโภค รวมตลอดถึงสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอย่างถูกต้องและเพียงพอที่จะไม่หลงผิด ในการซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยไม่เป็นธรรม, 2. สิทธิที่จะได้มีอิสระในการเลือกหา สินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยความสมัครใจของผู้บริโภค และปราศจากการชักจูงใจอันไม่เป็นธรรม
3. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับสินค้าหรือบริการที่ปลอดภัย มีสภาพและคุณภาพได้มาตรฐาน เหมาะสมแก่การใช้ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน ในกรณีใช้ตามคำแนะนำหรือระมัดระวังตามสภาพของสินค้าหรือบริการนั้นแล้ว, 4. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อสัญญาโดยไม่ถูก เอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ, 5. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณา และชดเชยความเสียหาย ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองและชดใช้ค่าเสียหาย เมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค ตามข้อ 1-4
การคุ้มครองผู้บริโภคนี้มี สคบ. เป็นตัวจักรสำคัญ
อย่างไรก็ตาม “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” แว่วมาว่า... หลังจาก องอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้เข้าตรวจ งาน สคบ.-สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เมื่อเร็ว ๆ นี้  ได้หารือกับทาง สคบ. กับ นิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการคณะ กรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ก็พบว่าภารกิจของหน่วยงานนี้กำลังหนัก หนาสาหัสกับเรื่องร้องเรียนจากการที่ “ประชาชนถูกละเมิดสิทธิผู้บริโภคจำนวนมาก” เป็นเหตุให้การดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภค  โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผู้บริโภคที่ถูกละเมิด กลายเป็นปัญหา สะสม-ทับถมมากขึ้นเรื่อย ๆ
นี่เป็นเหตุให้มีการพูดถึงการ “คุ้มครองผู้บริโภคเชิงรุก”
นัยว่าทั้งเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดแล้ว และ “ป้องปราม” ด้วย
จากข้อมูลข่าวในเว็บไซต์ www.ocpb.go.th ของ สคบ. ทาง รมต.ประจำสำนักนายกฯ ระบุประมาณว่า... จะเร่งสนับสนุนให้เกิดมาตรการเชิงรุกต่าง ๆ รวมถึงการประสานงานเพื่อความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค โดยให้มีการพิจารณา ใช้กลยุทธ์ที่นำมาซึ่งความสำเร็จในการปฏิบัติงาน และแก้ไขข้อจำกัด-ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ตลอดจนการประสานความร่วมมือจากการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เช่น การใช้สื่อ ช่องทางการใช้สื่อที่จะทำการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้เป็นไปในเชิงการ “ป้องกันการละเมิดสิทธิผู้บริโภค” ป้องกันปัญหาการซื้อสินค้าและบริการที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค
นอกจากนี้ จะมีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อ สร้างเสริมเครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งเมื่อมีการจัดตั้ง เครือข่าย ก็จะสนับสนุนให้มีการดำเนินการโดยต่อเนื่อง มีการจัดส่งข้อมูล ประสานงาน รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคอย่างได้ผล ซึ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็สอดคล้องกับ  รัฐธรรมนูญ กับกฎหมายที่มีอยู่ และที่สำคัญคือเรื่องนี้ก็ “เป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญของรัฐบาล”
ทั้งนี้ กับมาตรการเชิงรุก ก็คงมิใช่แค่มี สายด่วน สคบ. โทร. 1166 ให้ประชาชนร้องเรียน ซึ่ง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” แว่วว่า รมต.ประจำสำนักนายกฯ จะร่วมเป็นหัวขบวนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อปลุกกระแสคุ้มครองผู้บริโภค เช่น ผู้ประกอบธุรกิจ  รายใดทำผิดกฎหมายละเมิดสิทธิผู้บริโภค ก็จะมีการไปติดประกาศให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้กันถึงสถานที่ที่มีปัญหา, ปรับปรุงเว็บไซต์ สคบ. ให้ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจที่ละเมิดสิทธิผู้บริโภคได้ง่าย  ยิ่งขึ้น
ก็ถือว่าฮึ่มฮั่มได้น่าจับตาอีกครั้งกับเรื่อง “สิทธิผู้บริโภค”
น่าติดตาม “คุ้มครองผู้บริโภคเชิงรุก” ที่กำลังจะเกิดขึ้น
หวังว่าจะเกิดได้เร็ว-ดูแล “5 สิทธิของผู้บริโภค” ได้ดี!!.


ที่มา:http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=582&contentID=76812