เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เทศบาลตำบลปริก ร่วมกับสถาบันวิจัยระบบสุขภาพ (สวรส.) ภาคใต้ มอ. (ภายใต้โครงการพัฒนาระบบเครือข่ายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้) จัดเวทีสมัชชาผู้บริโภค ฉลาดซื้อ ณ ศาลาเอนกประสงค์เทศบาลตำบลปริก โดยมีพี่น้องเทศบาลตำบลทั้ง 7 ชุมชน ประกอบไปด้วยคณะกรรมการชุมชน อสม.และผู้สนใจทั่วไปประมาณ 100 คนเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้หัวข้อเรื่อง “บริโภคอย่างไรให้ฉลาด...ไม่ขาดทุน”

นายสุริยา ยีขุน นายกเทศมตรีตำบลปริก กล่าวเปิดงานและชี้แจงการร่วมดำเนินโครงการว่า...การบริโภคเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตประจำวันนับตั้งแต่เรื่องกินอยู่ และการบริการต่างๆ ซึ่งในวันนี้เราผู้บริโภคจะต้องเป็นผู้ยืนขึ้น ยกขึ้น ริเริ่มดำเนินการขึ้นมาเองโดยไม่รอแต่ทางการเหมือนเช่นในอดีต


ต่อจากนั้นตัวแทนทีมงานจากสวรส.โดยภก.สมชาย ละอองพันธุ์ ได้ให้ความรู้ความเข้าใจและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้บริโภคว่าพี่น้องในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานีกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ไม่รู้จักและยังละเลยเรื่องสิทธิของผู้บริโภค เหตุผลเพราะว่าไม่รู้จักสถานที่ร้องเรียน หรือเมื่อทำแล้วได้อะไรบ้าง เป็นต้น โดยยกกรณีตัวอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้บริโภคในปัจจุบันเรื่องสาร “เมลานีน”ซึ่งเป็นสารเร่งค่าโปรตีนที่ใช้กับพลาสติกที่ปนเปื้อนในอาหารและนมผง ซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กอย่างยิ่ง (เพราะเด็กไม่มีระบบย่อยจะทำให้เป็นโรคไตหรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต) และปัจจุบันสินค้าเหล่านั้นได้เข้ามากระจายอยู่ในเขตพื้นที่ของเราแล้ว จะเฝ้าระวังป้องกันอย่างไร “ในปัจจุบันคนที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งเหล่านี้สามารถฟ้องร้องศาลผู้บริโภคได้ นับเป็นยุคเบ่งบานของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านี้โดยทั่วไปบางครั้งก็ต้องใช้เวลามากกว่า 2-3 ปี สุดท้ายก็ไม่ได้รับการชดเชยอะไร และมีไม่น้อยที่ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบหรือฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วเรื่องราวก็เงียบหายไป ส่วนหนึ่งเพราะไม่มีข้อมูลความรู้และการดำเนินการอย่างถูกต้องทันการณ์”


ก่อนพักเบรก มีกลุ่มน้องๆนักเรียนจากโรงเรียนพัฒนศาสตร์ ได้แก่น้องพลอย  น้องเดียร์ และน้องบ่าวมาร่วมแสดงละครโรงเล็ก สะท้อนถึงปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบในเรื่องของการบริการในชีวิตประจำวันของเขา เช่นเรื่องเด็กอยากสวยเหมือน “พี่เพนเค้ก”ดารายอดนิยม ซื้อครีมตามโฆษณาทาแล้วหน้าไม่ขาวอย่างที่รับประกันใน 7 วันจะร้องเรียนกับใคร หรือเรื่องโทรศัพท์มือถือที่ให้บริการเรื่อง “โหลดเพลง”แล้วไม่ได้ แต่หักค่าใช้จ่ายไปแล้ว เมื่อโทรไปทวงถามผู้รับผิดชอบก็บอกแต่เพียงว่าไม่ได้ให้บริการนอกพื้นที่ต่างจังหวัด เป็นต้น เพื่อให้รู้ว่าเราควรจะทำเช่นไรเมื่อเกิดปัญหาเหล่านั้นขึ้นมา เพราะมีเวบไซต์ให้ร้องเรียนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น สคบ.ก็อยู่ไกลถึงกรุงเทพฯหรือต่างจังหวัด จะปรึกษาหารือเรื่องเหล่านี้กับใครดี

หลังจาก(รับประทานของว่างแล้วเสร็จ)นั้นมีการแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อระดมความคิดออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่กลุ่มอุปโภค กลุ่มบริโภค และกลุ่มบริการแล้วให้ตัวแทนออกไปนำเสนอปัญหาให้รับทราบเวทีสมัชชาผู้บริโภคฉลาดซื้อในวันนี้ มีคุณภาคภูมิ โภชนุกูล (พี่ปุ่น) และคุณนุชรี แอหลุย (น้องเขียว) จากเทศบาลตำบลปริก เป็นพิธีกรร่วมกัน คอยให้ความรู้ความเข้าใจ ช่วยสร้างสีสันบรรยากาศการพูดคุยอย่างเป็นกันเองแก่ผู้เข้าร่วมเวทีตลอดรายการ โดยคาดหวังว่านอกจากเวทีสมัชชาในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้น ที่ทุกฝ่ายจะได้มาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องราวที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา เพื่อรวมพลังกันพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนแล้ว  แนวทางการทำงานเหล่านี้จะได้มีการถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่งด้วย

พิธีกรดำเนินรายการกล่าวสรุปกิจกรรมและให้ข้อสังเกตเสริมแก่พี่น้องที่มาร่วมเวทีในวันนี้ว่าเรื่องกลุ่มผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์เช่นนม ปลากระป๋อง ถ้ามีรอยบุบรอยบุ๋ม ก็อย่าควักตังค์ซื้อไว้ก่อน และให้ดูวันเดือนปีที่ผลิตทุกครั้งที่ซื้อ การล้างผักผลไม้ต้องล้างในน้ำที่ไหลไม่ใช่ใส่ในภาชนะ และน้ำมันที่ทอดแล้วให้ใส่แกลอนรวมกันทางเทศบาลจะรับซื้อ เรื่องอาหารไม่มีอย.หรือเน่าบูดการทิ้งหรือละเลยไม่ใช่ทางออก ต่อไปนี้ให้ร้องเรียนได้ หรือถ้าเป็นไปได้สินค้าเครื่องสำอางบางอย่างก็ให้ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแทน เช่นเดียวกับเรื่องการให้บริการรถเมล์ และโรงพยาบาล ต่อไปทางเทศบาลและชุมชนของเราเราจะมีศูนย์ร้องเรียนเรื่องราวเหล่านี้ มีบอร์ดเผยแพร่ข่าวสาร มีเสียงตามสาย  “ทุกสิ่งที่ปริก ทุกๆวันจะดีขึ้น...เป็นสิ่งที่เราเชื่อ เพราะเราช่วยกัน” เป็นต้น

โดยมีการคัดเลือกตัวแทนชุมชนละ 2 คน รวมทั้งสิ้น 14 คน โดยมีคุณนุชรี แอหลุย เป็นเลขาธิการประสานงาน เพื่อจัดตั้งเป็นคณะกรรมการสมัชชาผู้บริโภคเข้มแข็งเทศบาลตำบลปริก ให้บริการรับเรื่องร้องเรียนและตั้งศูนย์พิทักษ์สิทธิ์และคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป