เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

รถจักรยานยนต์สามารถตอบสนองการเดินทางที่รวดเร็ว แต่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารส่วนใหญ่ไม่ค่อยคำนึงถึงความปลอดภัยในการสวมใส่หมวกกันน็อค เพื่อป้องกันศรีษะจากการกระแทกขณะเกิดอุบัติเหตุ จากผลการศึกษาเรื่องอุบัติเหตุของรถจักรยานยนต์ พบว่า 90% เป็นการล้มฟาดลงบนถนน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ศีรษะของผู้ขับขี่จะฟาดลงพื้นด้วยความเร็วเท่ากับการร่วงหล่นจากรถ ความเร็วของรถไม่ส่งผลต่อความเร็วของการลงกระแทกพื้น แต่จะทำให้ลื่นไถลต่อไป ในกรณีรุนแรงกว่านั้น ร่างกายจะถูกดีดลอยสูงขึ้นไปก่อนจะร่วงตกกระแทกพื้น 7% เป็นการชนอย่างจังและพุ่งไปกระแทกสิ่งกีดขวางข้างหน้า ถือเป็นการบาดเจ็บสาหัสรุนแรงเกินกว่าหมวกกันน็อคจะปกป้องได้ ที่เหลือ 3% ศรีษะและร่างกายฟาดลงกับขอบทางเท้า หมุดสะท้อนแสงกลางถนน เกิดแรงปะทะจุดเล็ก ๆ สร้างความบาดเจ็บขั้นรุนแรงเช่นกัน

ผลการศึกษานี้ สรุปได้ว่าหมวกกันน็อคสามารถป้องกันอันตรายของการล้มฟาดพื้นในแบบต่าง ๆ หรือการปะทะที่ความเร็วไม่สูง ซึ่งครอบคลุมจำนวนของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของอุบัติเหตุทั้งหมด ดังนั้น การสวมใส่หมวกกันน็อคที่ดีมีมาตรฐานรับรอง ช่วยลดอาการบาดเจ็บได้จริง
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หมวกกันน็อคสามารถป้องกันศรีษะผู้ขับขี่ได้ด้วยการดูดซับ และถ่ายเทแรงกระแทกของวัสดุ วัสดุชั้นนอกหรือเปลือกนอก “shell” ทำหน้าที่ป้องกันการเจาะกระแทกของวัสดุแหลมคม และป้องกันการอย่างแรง โดยดูดซับแรงกระแทกขั้นต้นที่เกิดจากอุบัติเหตุ วัสดุชั้นนอกที่ทำจากพลาสติกโพลีคาร์บอเนตขึ้นรูป ด้วยวิธีการฉีดผ่านแบบ และอาจทำมาจากไฟเบอร์กลาส หมวกกันน็อครุ่นพิเศษที่ต้องการความแข็งมาก ๆ ทำจากวัสดุคอมโพสิต (composit) ชนิดคาร์บอน ซึ่งเป็นเส้นใยที่แข็งแรงที่สุดเท่าทีมีในตลาดขณะนี้ เพื่อป้องกันการกระแทกที่รุนแรงและป้องกันส่วนรับแรงชั้นในไม่ให้ฉีกขาดจากการฟาดแรง ๆ หรือการไถลไปกับพื้น คุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้เปลือกนอกของหมวกสามารถกระจายแรงออกไปทั่วได้ทั่วทั้งใบ ทำให้ลดแรงที่กระแทกเป็นจุดลงได้
ส่วนภายในทำหน้าที่หลักในการผ่อนและชลอความเร็วแรงกระแทกภายในหมวกให้ค่อย ๆ ลดลงและหยุดอย่างนุ่มนวล เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนทางสมองเป็นสำคัญ หมวกราคาถูก วัสดุภายในมักทำจากโฟมกันกระแทกทั่วไป ไม่สามารถผ่อนแรง มิหนำซ้ำ ยังมีส่วนเสริมให้ศรีษะกระแทกฟาดพื้นขึ้นลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนหมวกคุณภาพที่วัสดุชั้นในทำจากโฟมโพลิสไตรีนที่เรียกว่า “ EPS foam “ ย่อมาจาก expanded polystyrene foam หรือเรียกว่า “ftyrofoam” หนาประมาณ 1 นิ้ว ชั้นโฟมนี้เป็นชิ้นส่วนสำคัญของหมวกกันน็อค เนื่องจากโพลิสไตรีนมีสมบัติที่ไม่คืนตัวและมีการกระจาย

แรง เมื่อดูดซับแรงกระแทกจึงเกิดการยุบตัวถ้าหากยิ่งดูดซับแรงกระแทกมากเท่าไหร่ การที่แรงจะส่งแรงไปถึงศรีษระผู้สวมใส่ย่อมลดน้อยยลง นอกจากนั้นชั้นภายในหมวกที่สัมผัสกับศรีษระนี้ อาจมีการบุผ้าหรือกำมะหยี่ไว้ภายในหมวกอีกชั้นหนึ่งเพื่อความนุ่มสบายยามสวมใส่อีกด้วย นอกจากวัสดุรับแรงกระแทกทั้ง 2 ชั้นแล้วผู้สวมใส่หมวกกันน็อคควรพิจารณาถึงขนาดที่พอดีกับศีรษะและความกระชับของสายรัดใต้คางด้วย ปัจจุบัน มีการออกแบบหมวกกันน็อคหลากหลายรูปแบบได้แก่

แบบครึ่งใบที่ปิดเฉพาะส่วนบนของศีรษะ
แบบเต็มใบที่ปิดส่วนบนที่ปิดส่วนบน ท้ายทอย ขากรรไกร
แบบปิดเต็มหน้าไปถึงบริเวณคางของผู้สวมใส่
หมวกกันน็อคบางรุ่นมีช่องเสียบหูฟังเข้ากับตัวหมวกเพื่อฟังวิทยุได้ หรือมีการเสริมด้านข้างของหมวกด้วยวงแหวนอลูมิเนียมเพื่อให้หมวกแข็งแรงขึ้นและลดแรงกระแทกด้านข้าง
ดังนั้น ลองใส่ใจตรวจดูสภาพหมวกกันน็อคที่ใช้อยู่เปรียบเทียบกับหมวกกันน็อคแบบมีมาตรฐานรับรอง เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง เรามีวิธีเลือกซื้อหมวกกันน็อคมาฝากกัน

เลือกหมวกกันน็อคแบบปิดเต็มหน้า เพื่อช่วยบังลม กันฝุ่น และให้ความปลอดภัยทั่วทั้งศรีษะ
เลือกที่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมรับรอง และมีฉลากแสดงที่อยู่ของผู้ผลิตที่มีรายชื่อว่าได้รับมาตรฐานของสมอ. พร้อมคำแนะนำวิธีใช้ ไม่ซื้อหมวกที่มีตราสมอ.อย่างเดียว เพราะเสี่ยงต่อการเจอของปลอม
เลือกสีฉูดฉาด เห็นเด่นชัดแต่ไกล เช่น เหลือง ส้ม แดง ฯลฯ
น้ำหนักเบาไม่เกิน 2 กิโลกรัม (ยิ่งเบายิ่งดี) มีรูระบายอาศ มีช่องฟังเสียง ช่องบังลมต้องทำจากวัสดุโปร่งใสและไม่มีสี ใส่แล้วกระชับศรีษะ
รัดสายรัดคางให้แน่นทุกครั้งที่สวม หมวกจะได้ไม่เลื่อนหลุด


สุดท้ายที่อยากบอกคือ จ่ายแพงสักนิดซื้อหมวกกันน็อคที่ได้มาตรฐานสักใบแลกกับความปลอดภัยลดความเสี่ยงจากการสูญเสียชีวิตและบรรเทาอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ความคุ้มค่าที่น่าลงทุน แหล่งข็อมูล

สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตธัญบุรี