ข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์

ส.บ.ท.’ ชี้ ‘ร่าง พ.ร.บ.กสทช.’ ยังอ่อนเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค

by twoseadj @May,04 2010 13.04 ( IP : 202...244 ) | Tags : ข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์
photo  , 251x360 pixel , 30,885 bytes.

สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม’ ชี้ แนวโน้มเรื่องร้องเรียนปัญหาโทรคมนาคมเพิ่มสูงแน่ ติง ร่าง พรบ.กสทช. ต้องเขียนกลไกคุ้มครองผู้บริโภคให้ชัด รองรับความเดือดร้อนผู้บริโภคในอนาคตด้วย  สามารถแก้ปัญหาเชิงระบบ และทำหน้าที่เหมือนอัยการรวบรวมข้อเท็จจริงให้ศาล

เมื่อวันที่ 26-27 เมษายน 2553 ที่โรงแรมริชมอนด์ 11 องค์กรผู้บริโภค อาทิ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ (คคส.)  สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) เครือข่ายคุ้มครองสิทธิจังหวัด ได้จัดการประชุมสมัชชาผู้บริโภค “เงินของเรา สิทธิของใคร” (your money your right) 10 บาท...เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ขึ้น

ช่วงหนึ่งของการประชุมได้มีการประชุมกลุ่มย่อย 6 กลุ่ม หนึ่งในนั้นคือเรื่อง การให้ความเห็นต่อ (ร่าง) พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ... (พ.ร.บ.กสทช.) ซึ่งล่าสุด วุฒิสภาได้ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวแล้วด้วยเสียงข้างมาก และตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นพิจารณา

หนึ่งในหลายประเด็นที่ที่ประชุมสมัชชาผู้บริโภคห่วงใย คือ ม. 31 ในร่าง พรบ. ดังกล่าว ที่กำหนดให้กลไกการคุ้มครองผู้บริโภคมีสถานะเป็นเพียงคณะอนุกรรมการเท่านั้น ซึ่ง นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (ผอ.สบท.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า  จากการทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม พบว่า แนวโน้มของเรื่องร้องเรียนด้านโทรคมนาคมเกือบทุกประเทศเพิ่มสูงขึ้น เช่น ที่ประเทศอังกฤษ ปรากฏว่า ในปี 2551 นั้น 2 ใน 10 อันดับเรื่องร้องเรียนเป็นเรื่องโทรคมนาคม และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขณะที่สหรัฐอเมริกา ข้อมูลจากสมาคมนักกฎหมายอเมริกาพบว่า เรื่องร้องเรียน 10 อันดับในปี 2550 มีเรื่องโทรคมนาคมอยู่ในอันดับ 4 ส่วนประเทศออสเตรเลียสามเดือนแรกปี 2552 มีเรื่องร้องเรียนถึง 130,000 เรื่อง

ผอ.สบท.กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเทศไทย ในปี 2551 มีจำนวนผู้ร้องเรียน 300 กว่าราย ปี 2552 เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 กว่าราย เพิ่มขึ้น 7 เท่า จากแนวโน้มการร้องเรียนที่จะเพิ่มสูงขึ้น การทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม จึงจำเป็นต้องมีกลไกในการทำงาน เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่มุ่งแก้ปัญหาเฉพาะราย และกลไกนี้ต้องการการมีส่วนร่วมของประชาชนจากทั่วทุกภูมิภาค ดังนั้นร่าง พรบ.กสทช. จำเป็นต้องบัญญัติกลไกการคุ้มครองผู้บริโภคไว้ในกฎหมาย ให้เป็นกลไกที่สามารถรับเรื่องร้องเรียน แก้ปัญหาในเชิงระบบ เชื่อมโยงหน่วยบังคับใช้กฎหมายและเชื่อมโยงกับประชาชน

“ร่าง พรบ. ดังกล่าวเป็นการเขียนเชิงหลักการ ที่ระบุให้มีคณะอนุกรรมการ แต่ในสถานการณ์จริงแนวโน้มของการละเมิดสิทธิผู้บริโภคด้านสื่อและด้านโทรคมนาคมจะเพิ่มขึ้น อย่างที่คาดการณ์ว่าในอนาคตทุกประเทศจำนวนผู้ร้องเรียนจะแตะหลักแสน ถ้าถึงขนาดนั้นต่อให้มี 10 อนุกรรมการก็ทำงานไม่ทัน มันคงต้องมีองค์กรและกลไกที่ทำหน้าที่อย่างเต็มรูปแบบ  ที่มีหน้าที่กลั่นกรองเรื่อง วิเคราะห์ข้อร้องเรียนเป็น กำหนดประเด็นทางกฎหมายเป็น และเตรียมข้อเสนอในทางเลือกว่า กรณีนี้จะมีทางเลือกในการแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้าง เพื่อให้อนุกรรมการเป็นเหมือนผู้ทรงคุณวุฒิที่มาใช้ดุลยพินิจมากกว่า แต่คนที่จะใช้ทักษะในการแสวงหาข้อเท็จจริงและเตรียมสำนวนเป็นชั้นของสำนักงาน เหมือนตำรวจอัยการ เตรียมสำนวนก่อนส่งฟ้องศาล  ไม่ใช่ศาลต้องไปสืบสวนสอบสวนทำสำนวนเอง ถ้าอย่างนั้นอนุกรรมการก็จะทำงานไม่ไหว” ผอ.สบท. กล่าว

ที่มา:ประชาไทออนไลน์ วันที่ 28 เมษายน 2553

Relate topics

แสดงความคิดเห็น

กรุณาป้อน Username / Password ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้กับเว็บไซท์แห่งนี้ หรือ สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซท์
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง