เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

อภ.รุดหน้าผลิตยาจิตเวช 2 รายการ สำเร็จ รอขึ้นทะเบียนกับอย. สปสช.เผยครม.อนุมัติงบ 200 ล้าน ดูแลผู้ป่วยจิตเวชฟรี

นางอัจฉรา เอกแสงศรี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ขณะนี้ อภ.ประสบความสำเร็จในการพัฒนายาจิตเวช เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ป่วยจิตเวชเนื่องจากที่ผ่านมายากลุ่มนี้มีราคาแพงมาก จนต้องถูกดึงออกจากบัญชียาหลักแห่งชาติ ขณะเดียวกันยังมีผลข้างเคียงกับผู้ใช้ โดยเฉพาะหลังรับประทานจะมีภาวะซึม เดินไม่เป็นธรรมชาติ ตัวแข็งทื่อ จากปัญหาดังกล่าว ราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทยมีข้อเสนอให้ อภ. ผลิตยาจิตเวชขึ้น 3 รายการ เพื่อให้มีราคาต่ำลง ซึ่งยาดังกล่าวไม่มีปัญหาสิทธิบัตร ได้แก่ 1. ริสเพอริสโดน (Risperidone) หรือยารักษาโรคจิตเวช 2. ยาเซอร์ทราลีน (Sertraline) หรือยาต้านโรคซึมเศร้า และ 3. เมทิลเฟนิเดต (Methylphenidate)หรือยาสมาธิสั้น

“ขณะนี้สามารถผลิตยาสามัญ ได้แล้วจำนวน 2 รายการ คือ ยาริสเพอริสโดน และยาเซอร์ทราลีน ซึ่งอยู่ระหว่างรอขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และอยู่ระหว่างประสานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ถึงโอกาสในการนำยาทั้ง 2 ตัวเข้าสู่รายการบัญชียาหลักแห่งชาติด้วย” นางอัจฉรา กล่าว

นางอัจฉรา กล่าวอีกว่า สำหรับยาเมทิลเฟนิเดต ส่วนผสมตัวยาเป็นวัตถุที่ต้องควบคุมโดย อย. จึงต้องขออนุญาต และนำเข้าวัตถุดังกล่าว จากนั้นก็สามารถผลิตได้ทันที ซึ่งทั้งหมดมีกำลังผลิตตัวยาละมากกว่า 2 แสนเม็ด อย่างไรก็ตาม ยาทั้ง 3 รายการแม้จะเป็นยาสามัญ แต่คุณภาพเทียบเท่ายาต้นแบบ ที่สำคัญมีราคาถูกกว่าหลายเท่า อย่างยาริสเพอริสโดน ซึ่งเป็นยารักษาโรคจิตเวช ยาต้นตำรับเม็ดละ 40 กว่าบาท แต่หาก อภ.ผลิตเองจะมีราคาเม็ดละ 4 บาทเท่านั้น ส่วนยาต้นแบบของเซอร์ทราลีนมีราคาเม็ดละ 37 บาท แต่หาก อภ. ผลิตเองจะมีราคาเม็ดละไม่เกิน 5 บาทเช่นกัน

ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในปี 2554 จะเริ่มขยายสิทธิการรักษาผู้ป่วยจิตเวชในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือ สิทธิบัตรทอง โดยครม.ได้อนุมัติงบประมาณราว 200 ล้านบาท เพื่อก่อตั้งกองทุนผู้ป่วยจิตเวชและให้การรักษาฟรี โดยระหว่างนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการให้บริการ โดยจะมีเวลาในการดำเนินการอีก 4-5 เดือน ทั้งความร่วมมือระหว่างองค์การเภสัชกรรม ในการผลิตยาจิตเวช ซึ่งมีราคาแพง 2 ตัว คือ ยาริสเพอริสโดน และยาเซอร์ทราลีน รวมถึงความร่วมมือระหว่าง อภ.และกรมสุขภาพจิตในการจัดระบบเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาและการกระจายยา นอกจากนี้สปสช.ได้เสนอบรรจุเข้าบัญชียาหลักแห่งชาติไปแล้ว มั่นใจว่า ในปีงบประมาณ 2554 จะสามารถเริ่มดำเนินการดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวชที่ใช้สิทธิบัตรทองได้ทันที

ที่มา:ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2553