เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

ภญ.เนตรนภิส สุชนวนิช ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวในการงานสัมมนาเรื่อง “เภสัชกรกับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ครั้งที่ 3 ว่าในปี 2553 สปสช.ได้พัฒนายุทธศาสตร์ใหม่ในการพัฒนาด้านเภสัชกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า(บัตรทอง) โดย สปสช.จะปรับลดขั้นตอนการกระจายวัคซีนลง จากเดิมที่จะต้องส่งต่อวัคซีนผ่านหลายหน่วยงาน เปลี่ยนเป็นกระจายวัคซีนจากองค์การเภสัชกรรมสู่โรงพยาบาลโดยตรง โดยเภสัชกรจะมีบทบาทในการประกันคุณภาพวัคซีน ทั้งในแง่ของการควบคุมมาตรฐานในการเก็บรักษาวัคซีน และการบริหารคลังยา เพื่อให้วัคซีนคงไว้ซึ่งคุณภาพจนกระทั่งถึงมือประชาชน

ด้าน ภก.อำพล กายบริบูรณ์ ผู้แทนองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า สปสช. อภ.และกรมควบคุมโรค ได้ร่วมกันจัดโครงการปรับเปลี่ยนระบบการกระจายวัคซีนจากเดิมหลายขั้นตอน เหลือเพียงขั้นตอนเดียวโดย อภ. ส่งไปยังโรงพยาบาลโดยตรง โดยมุ่งไปที่วัคซีนในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่เรียกว่า วัคซีน EPI ซึ่งเป็นวัคซีนจำพวกป้องกันบาดทะยัก ไอกรน คอตีบฯลฯ เบื้องต้นนำร่องเปลี่ยนระบบจัดส่งแล้วใน 25 จังหวัด คาดว่าในปีนี้จะครบทั้งประเทศ

ภก.วิพิน กาญจนการุณ นายกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ที่ผ่านมาการกระจายยาและวัคซีนจากผู้จำหน่ายไปยังโรงพยาบาลมีความยุ่งยาก หลายขั้นตอน กว่าจะมาถึงโรงพยาบาล สถานีอนามัยต้องใช้เวลานาน โดยเฉพาะการขนส่งวัคซีน หากขาดการจัดเก็บที่ดีพอจะส่งผลให้วัคซีนแตกเสียหาย และยิ่งหากระบบการจัดเก็บขาดตู้บรรจุวัคซีนที่มีอุณหภูมิที่เหมาะสมจะส่งผล ต่อคุณภาพของวัคซีนด้วย และทำให้มีปริมาณยาเพียงพอต่อการใช้ ไม่มียาตกค้างมากเกินไปจนยาหมดอายุ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มีนาคม 2553 01:07 น