ข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์

“คอลลาเจน” มายาคติความงาม

by wanna @February,04 2010 17.11 ( IP : 113...169 ) | Tags : ข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์
photo  , 300x528 pixel , 24,437 bytes.

ในตลาดการเสริมความงาม เวชภัณฑ์ อาหารเสริม ตลอดจนสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ที่ถูกจับมาปรุงแต่งใส่หีบห่อและผูกโบว์งดงามด้วยคำโฆษณาชวนเชื่อจูงใจคนอย่างสวยทั้งหลายให้ยอมควักกระเป๋าซื้อหามาใช้นั้น ถือเป็นตลาดที่คึกคักตลอดทั้งปีไม่ว่าช่วงนั้นๆ สภาพเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร

ชาขาว...ชาเขียว...โปรตีนซอย...คิวเท็น...กลูต้าไธโอน...ไฟเบอร์...ถั่วขาว...อะมิโน และอื่นๆ อีกมากมายที่กลายเป็นชื่อคุ้นหูคุณผู้หญิงทั่วไปจากการโฆษณาทั้งในโทรทัศน์ วิทยุ และสื่ออื่นๆ ล่าสุดที่เข้ามาในตลาดความงามของเมืองไทยได้ระยะหนึ่งและทำท่าจะติดตลาดอยู่ได้นานด้วยเพราะมีตัวเลือกมากมายให้กับหลายกลุ่มลูกค้าก็คือ “คอลลาเจน”

ปัจจุบันหลายคนอาจจะคุ้นหูคุ้นตากับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ผสมอาหารเสริมที่ผู้ผลิตโฆษณาไปในทิศทางที่ว่า “ดื่มแล้วสวย หน้าเด้ง ผิวดี ลบรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ยกกระชับใบหน้าให้เต่งตึงขึ้น” ซึ่งส่วนใหญ่จะโฆษณาว่าเป็น “เครื่องดื่มผสมคอลลาเจน” สนนราคาขวดละประมาณ20-30 บาท ซึ่งราคาในระดับนี้เป็นที่นิยมของสาวๆ วัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน สถานที่ซื้อหาก็เข้าถึงได้ไม่ยาก มีทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้สำหรับผู้ที่อยากสวยเร็วๆ แบบเพียวๆ ไร้สิ่งเจือปน ผู้ผลิตหัวใสก็ผุดผลิตภัณฑ์ “คอลลาเจน” ระดับ “ไฮเอนด์” และโฆษณาว่าเป็น “คอลลาเจนบริสุทธิ์” ส่วนใหญ่จะเป็นผงละเอียดสีขาว ใช้ผสมน้ำหรือเครื่องดื่มเพื่อบริโภค ซึ่งคอลลาเจนชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูง บรรจุภัณฑ์ห่อหนึ่งมีราคาสูงถึงประมาณ 1 พันถึงหลายพันบาทขึ้นไปเลยทีเดียว

...สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ในราคาเรือนแพงเช่นนั้น สิ่งที่ได้กลับมาจริงอย่างที่โฆษณาหรือไม่ และผู้บริโภคที่กำลังอยากสวย กำลังตกเป็น “เหยื่อ” อยู่หรือเปล่า...

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน คณบดีคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึง “คอลลาเจน” ในบทบาทของสารอาหารว่า ตามหลักชีวเคมีนั้น คอลลาเจนถือเป็นกรดอะมิโน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นสาย เมื่อคนเราบริโภคเข้าสู่ร่างกายแล้ว ร่างกายจะนำไปใช้ได้ก็ต่อเมื่อตัดมันเป็นท่อนๆ ก่อนจะดูดซึมเข้าไป

“คอลลาเจนเมื่อเข้าไปแล้ว จะต้องถูกตัดๆๆให้เล็กลงเพื่อจะให้ร่างกายดูดซึมได้ มันเป็นโปรตีนแบบหนึ่ง ไม่ได้เข้าไปในรูปคอลลาเจน อธิบายให้เห็นภาพคือ เมื่อเรากินไก่หรือกินกระดูกอ่อน มันจะไม่เข้าไปเป็นไก่ เป็นกระดูกอ่อนแล้วไปทั้งชิ้นนั้นไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย แต่มันจะถูกย่อยเป็นโปรตีน คอลลาเจนก็เป็นโปรตีนซึ่งมีหน้าที่เหมือนโปรตีนทั่วไป เมื่อเข้าไปในร่างกาย มันจะถูกส่งไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ต้องเข้าใจว่าที่โฆษณาว่ากินแล้วหน้าเด้ง ผิวเต่งตึงนั้นมันไม่ได้เข้าไปแล้วพุ่งไปที่ใบหน้าเลย แต่มันจะถูกส่งไปทั่วร่างกายไปซ่อมในจุดที่ต้องการโปรตีน โอเคว่าที่ใบหน้ามันอาจจะขาด ก็อาจจะส่งไปที่ใบหน้า แต่มันก็ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงว่าไปที่ใบหน้าหรือที่ผิวอย่างที่โฆษณา”

รศ.ดร.วินัยกล่าวยอมรับว่าคอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งและโปรตีนก็เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย แต่ตามความเห็นส่วนตัวแล้ว ไม่จำเป็นต้องกินคอลลาเจนแต่กินโปรตีนอื่นๆ จากแหล่งอื่นๆ ก็ได้ประโยชน์ไม่ต่างกัน และมีราคาถูกกว่าคอลลาเจนด้วย

“กินคอลลาเจนได้โปรตีนครับ แต่กินไข่ก็ได้โปรตีนเหมือนกัน จริงๆ แล้วคอลลาเจนเป็นโปรตีนคุณภาพต่ำ ราคาถูก แต่ที่แพงขึ้นมาขนาดนี้มันเป็นเรื่องของการค้าและกลยุทธ์ทางการตลาด เดิมเพราะราคามันถูกจึงถูกย้อมด้วยความเชื่อว่ากินแล้วสวย กินแล้วเด้ง มันจึงถูกทำให้แพงขึ้นได้ เหมือนยุคหนึ่งที่เราถูกทำให้เชื่อว่ากินโยเกิร์ตแล้วสวย จริงๆ แล้วสาระของโยเกิร์ตมันไม่ได้กินแล้วสวย แต่มันอธิบายได้ง่ายที่สุด เข้าถึงกำลังซื้อได้มากกว่าที่เราจะมาอธิบายว่ามันดีจริงๆ อย่างไรเพราะแบบนั้นมันฟังยาก ที่เป็นห่วงที่สุดก็คือผู้บริโภคที่เสียเงินแพงๆ แล้วกินไปก็ไม่สวยกว่าเดิมเท่าไหร่ แล้วเขาจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่เงินที่จ่ายไปกับใคร” คณบดีคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯกล่าว

ในส่วนของเดี่ยวมือหนึ่งด้านโภชนาการ อ.สง่า ดามาพงษ์ นักโภชนาการชื่อดังนั้น ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกับรศ.ดร.วินัยว่าคอลลาเจนเป็นโมเลกุลใหญ่ ร่างกายไม่สามารถดูดซึมโดยตรงได้โดยตรงและเมื่อเข้าไปในร่างกายก็ไม่สามารถกำหนดได้ตามใจคิดว่าให้เข้าไปซ่อมได้แบบเฉพาะจุด แต่ทุกวันนี้ที่ฮิตติดตลาดก็เพราะเป็นเรื่องของการสร้างมูลค่าบนความคาดหวังของผู้หญิงอยากสวย

“อยากแนะนำว่าหากต้องการชะลอวัยแบบสุขภาพดี ไม่ต้องไปเสียเงินกับสิ่งที่ยังไม่มีงานวิจัยรองรับและไม่มีหน่วยงานไหนออกมารับรองว่ามันจะทำให้ลดความเหี่ยวย่นได้อย่างคอลลาเจน สู้เอาเงินไปซื้ออาหารที่มีสารอาหารมารับประทาน มีสารต้านอนุมูลอิสระมากๆ เช่นผักใบเขียว ผักสีส้ม ผักสีแดง จำพวกแครอท มะเขือเทศ ผักใบต่างๆ และรับประทานโปรตีน คาร์โบไฮเดรตให้ครบตามส่วน และออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่เครียด พักผ่อนเพียงพอ เท่านี้ก็ช่วยชะลอวัยได้แล้ว” อ.สง่าแนะนำ

ด้านนพ.จิโรจ สินธวานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนังให้ข้อมูลว่า ในความเห็นส่วนตัวเป็นไปไม่ได้ที่คอลลาเจนจะช่วยยกกระชับใบหน้าและผิวพรรณให้เต่งตึง และไม่มีงานวิจัยเชิงวิชาการใดๆ รองรับทฤษฎีนี้ด้วย

“ไม่ว่าจะนำคอลลาเจนมากินหรือมาทา มันจะไม่เข้าไปช่วยให้ผิวพรรณหรือใบหน้าเต่งตึงได้โดยตรง ที่ทาแล้วไม่ดูดซึมก็เพราะคอลลาเจนเป็นโปรตีนขนาดใหญ่ที่มีสายยาว แต่ถ้าผู้บริโภคอยากกินมันก็ช่วยบำรุงเพิ่มจากโปรตีนอาหารอื่นๆ แต่ไม่ช่วยด้านความสวยงามครับ ไม่มีงานวิจัยตัวใดรับรอง เราไม่สามารถบอกได้ว่ากินคอลลาเจนเข้าไปแล้วมันจะบำรุงส่วนใด มันอาจจะเข้าไปที่ลิ้นหัวใจ ผนังลำไส้ หรือส่วนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ใบหน้าก็ได้ เพราะส่วนเหล่านี้ก็ต้องการโปรตีนเช่นกัน” ผอ.สถาบันโรคผิวหนังกล่าวย้ำ

สืบค้นจาก ผู้จัดการออนไลน์

Relate topics

แสดงความคิดเห็น

กรุณาป้อน Username / Password ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้กับเว็บไซท์แห่งนี้ หรือ สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซท์
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง