วันนี้ 18 มกราคม 2553 พลเมืองดีท่านหนึ่งได้โทรศัพท์มาประสานขอความร่วมมือกรณีคุณลุงใกล้บ้านมีอายุประมาณ 50 กว่าปี ป่วยเป็นโรคปวดท้อง ได้ไปรักษาอาการป่วยอยู่ ณ โรงพยาบาลสทิงพระ จำนวนหลายครั้ง อาการไม่ดีขึ้น จึงอยากไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลาจึงร้องขอกับทางโรงพยาบาลสทิงพระให้ดำเนินการส่งต่อ แต่ทางโรงพยาบาลสทิงพระได้ให้เหตุผลว่า"ยังสามารถให้การรักษาคุณลุงได้ โดยให้ยาฉีดและกลับไปรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งคุณลุงเองอาการก็ไม่ดีขึ้น ครั้นจะไปโรงพยาบาลสงขลาเองก็ไม่มีเงิน ซึ่งทางศูนย์พิทักษ์สิทธิฯ ได้สอบถามไปยัง สปสช. เขตสงขลา ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าสามารถให้การช่วยเหลืออะไรได้บ้าง
สปสช.สงขลา ก็ได้ให้คำแนะนำกรณี ของคุณลุง โดยคุณลุงมีสิทธิบัตรทองที่โรงพยาบาลสทิงพระ ซึ่งหากโรงพยาบาลยังยืนยันว่าสามารถให้การรักษาได้
1.คงต้องเคารพตามสิทธิตามที่คุณหมอเจ้าของไข้เป็นคนวินิจฉัยว่าให้รักษาต่อที่โรงพยาบาลสทิงพระ
2.ถ้าหากว่าคุณลุงจะไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลาโดยไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน คุณลุงต้องเสียเงินค่ารักษาด้วยตนเอง
3.กรณีสุดท้ายหากคุณลุงยังยืนยันว่าต้องการรักษาพยาบาลโรงพยาบาลสงขลา คุณลุงต้องย้ายสิทธิไปยังทะเบียนบ้านของญาติที่มีภูมิลำเนาในอำเภอเมืองสงขลา ซึ่งเมื่อทำการย้ายสิทธิได้แล้วคุณลุงก็สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้ภายใน 15 วัน
ทางศูนย์ฯ เองก็เห็นใจคุณลุงที่เป็นคนป่วยที่ต้องการได้รับบริการจากหน่วยสถานบริการที่คุณลุงมีความมั่นใจว่าจะรักษาอาการป่วยของตนเองได้ ส่วนหน่วยบริการก็เข้าใจถึงข้อจำกัดในการบริหารจัดการ
ศูนย์ฯ จึงได้ประสานความร่วมมือไปยังคุณสมจิตร ฟุ้งทศธรรม ศูนย์ให้ความช่วยเหลือเรื่องหลักประกันภาคประชาชนไทรงาม อำเภอเมืองสงขลา เพื่อให้ศูนย์ไทรงามดำเนินการย้ายสิทธิคุณลุงดังกล่าวคะ