นางนิตยา ชุมสันติกุล อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 340 ถ.ระโนด-สงขลา ตำบล วัดสน อ.ระโนด จ.สงขลา ได้เดินทางมาร้องเรียนที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค รายละเอียด ลูกสาวของป้าปกติทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ประจำศูนย์เด็กเล็ก จ.ปัตตานี มีโรคประจำตัว คือเป็นโรคลมชัก มีสิทธิประกันสังคม เข้ารับการรักษาตัวที่คลินิกนายแพทย์สรรเพชร เลิศตระกูล อ.เมือง จ.สงขลา ในการรักษา คนไข้ได้รับยากันชัก ชื่อ dilantin และclonazepam หลังจากรับประทานไปสักระยะหนึ่ง ก็เกิดอาการแพ้ยา แผลพุพองเป็นนำใสๆทั้งตัว เป็นแผลทั้งในส่วนภายในและภายนอกร่างกาย ส่วนสายตาก็เริ่มปิดสนิท มองไม่เห็น นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานาน 15 วัน ซึ่งนายแพทย์สรรเพชรก็ทำงานเป็นแพทย์ศัลกรรมสมองที่นั่น ระหว่างการรักษาตัวของลูกสาวนั้น ทางญาติก็ติดต่อไปยังนายแพทย์สรรเพชร แต่ก็ได้รับการปฏิเสธว่าไม่สามารถมาดูแลอาการของลูกสาวได้ ระหว่างนั้นทางเภสัชกรประจำโรงพยาบาลสงขลา ก็มาเก็บข้อมูลจนออกบัตรแพ้ยาแก่คนไข้ พยาบาลทีรู้จักก้ได้ถ่ายรูปอาการของคนไข้ไว้ เนื่องจากกลัวว่า เมื่อหายจากอาการแพ้ยาแล้วรอยโรคจะเลือนหายไปตามกาลเวลา
ภายหลังจากออกจากโรงพยาบาลสงขลาแล้ว คนไข้ต้องไปรักษาตาที่มองไม่เห็นที่คลินิกแพทย์โรคตา และหมอโรคผิวหนังที่เปิดคลินิกในหาดใหญ่ หมดค่าใช้จ่ายไปประมาณ 40,000 บาท จนรู้สึกตนเองไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวไหวได้ เพราะด้วยฐานะแล้วก็ลำบากอยู่แล้ว จึงเข้ารับการรักษาตัวต่อที่ดรงพยาบาลหาดใหญ่ แพทย์ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ก็วินิจฉัยว่า คนไข้แพ้ยาจนส่งผลกระทบต่อต่อมน้ำตาแห้ง ไม่สามารถผลิตน้ำตาออกมาได้ ต้องใช้ยาหยอดตาน้ำตาเทียมไปตลอดชีวิต เป็นอุปสรรคต่อการทำงานมาก ส่วนผิวหนังก็เป็นแผลทั้งตัวต้องรักษาต่อที่คลินิกหมอผิวหนังที่หาดใหญ่เกือบเดือนเสียค่าใช้จ่ายอีกเกือบ 5 พันบาท ขณะนี้ทางผู้เสียหายไม่สามารภแบกรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นที่ผ่านมาและในอนาคตสำหรับการรักษาตัวของคนไข้ ต้องการให้นายแพทย์สรรเพชร แพทย์เจ้าของไข้ที่ให้ยาจนคนไข้แพ้ยารุนแรงนั้น รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ขณะนี้คนไข้ได้รับการส่งตัวมารับการรักษาตัวที่คลินิกโรคตาของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จากโรงพยาบาลปัตตานี นอกจากนี้ นางสาวปฏิมา ชุมสันติกุลได้ทำหนังสือถึงนายแพทย์สรรเพชรในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่าน เพื่อให้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เยียวยาความทุกข์ยากที่ผู้ป่วยกำลังได้รับ