เทศกาลปีใหม่หลายคนตื่นเต้นยินดีที่ได้กระเช้าของขวัญมากมาย แต่บางคนถึงกับต้องบ่นอุบ เมื่อพบว่าขนมนมเนยในกระเช้าของขวัญราคาแพงที่เพิ่งได้มาหมาดๆ จวนเจียนจะถึงวันหมดอายุในอีกวันสองวัน แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไรดีถ้ามีมากมายจนกินไม่ทันก่อนวันหมดอายุ
อีกทั้งบ่อยครั้งที่เราซื้อนม ขนมปัง หรืออาหารที่มีวันหมดอายุ แล้วกินไม่ทัน หรือเก็บไว้จนลืม พอนึกขึ้นได้อีกทีก็เลยวันหมดอายุไปแล้ว จะทิ้งก็เสียดาย ครั้นจะกินเข้าไปก็ไม่วายกลัวอาหารเป็นพิษ เรื่องนี้ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ มีคำอธิบายจาก นางดรุณี เอ็ดเวิร์ดส นายกสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหารแห่งประเทศไทย หรือ โฟสแตต (FoSTAT)
นางดรุณีอธิบายว่า โดยทั่วไปการบอกวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์อาหารจะมี 2 แบบ คือ ควรบริโภคก่อน (Best Before) และ วันหมดอายุ (Expired Date) ซึ่งคนส่วนใหญ่มักสับสนกันว่าทั้ง 2 คำนี้หมายถึงวันหมดอายุ แต่ที่จริงแตกต่างกันคือถ้าเป็น Expired Date หมายถึง หลังจากวันนั้นแล้วห้ามรับประทานหรือไม่ควรบริโภค แต่ถ้าเป็น Best Before หมายถึง อาหารจะมีลักษณะและรสชาติดีจนถึงวันนั้น และอาจเปลี่ยนแปลงไปหลังจากวันนั้น แต่ไม่มีปัญหาในเชิงความปลอดภัย จึงยังสามารถรับประทานได้โดยไม่มีอันตราย
"หากเราจะบริโภคหลังจากวันหมดอายุที่เขาระบุไว้ อันที่จริงมันไม่มีอันตราย เพราะในเรื่องของการทำการศึกษา ว่า หมดอายุเมื่อไหร่ หรือว่าบริโภคก่อนเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ เขาจะมีค่าความปลอดภัย (Safety factor) ของอาหารแต่ละชนิดหลังวันดังกล่าวอยู่แล้ว แต่ตามกฎหมายให้ยึดถือตามวันที่ระบุบนฉลากว่าเป็นวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์นั้นๆ" นางดรุณีแจง และยกตัวอย่างอาหารแต่ละประเภทที่มีการระบุวันหมดอายุว่า หากเลยวันหมดอายุไปแล้ว ควรจะบริโภคดีหรือไม่ ดังต่อไปนี้
ผลิตภัณฑ์นมและน้ำผลไม้
นมพาสเจอร์ไรส์ (pasteurization) มักบรรจุในถุงหรือขวดพลาสติก และมีอายุการเก็บรักษาสั้นเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ และต้องเก็บรักษาในที่อุณหภูมิต่ำ เพราะผ่านการฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิไม่สูงมาก ทำลายเฉพาะเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย แต่ยังมีเชื้อจุลินทรีย์อื่นๆ หลงเหลืออยู่ ซึ่งเมื่อมีมากเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ จึงไม่แนะนำให้บริโภคหากเลยวันหมดอายุแล้ว
นมสเตอริไลส์ (sterilization) ที่มักบรรจุในกระป๋อง และ นมยูเอชที (Ultra High Temperature) ที่มักบรรจุกล่อง นมประเภทนี้จะผ่านการฆ่าเชื้อด้วยอุณหภูมิสูงมาก จึงสามารถเก็บไว้ได้ที่อุณหภูมิห้องในภาชนะปิดสนิทเป็นเวลาประมาณ 6 เดือน แต่หากเกินกว่านั้นไปแล้วประมาณ 1-2 เดือน ก็ยังสามารถบริโภคได้อยู่ แต่ทางที่ดีนั้นไม่ควรบริโภคเมื่อพบว่าหมดอายุแล้ว
สำหรับน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มบรรจุขวด กล่อง และกระป๋องนั้นก็มักผ่านกรรมวิธีการผลิตและมีวิธีการเก็บรักษาคล้ายกับผลิตภัณฑ์นม
ขนมปังและเบเกอรี่
ขนมปังอบกรอบ แครกเกอร์ หรือคุกกี้ มักไม่ค่อยพบปัญหาเรื่องเชื้อจุลินทรีย์เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่อบจนแห้งมาก ไม่ค่อยพบการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ทำให้เก็บรักษาได้นาน ทว่าวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักเป็นสิ่งที่รับประกันคุณภาพ ในเรื่องรูปร่างหน้าตาและความกรอบอร่อย เพราะถ้าเก็บไว้นานเกินไป ก็จะมีโอกาสดูดความชื้นจากบรรยากาศได้และทำให้หายกรอบและไม่อร่อย แม้จะยังไม่เสียก็ตาม
ขนมปังปอนด์และขนมปังอบทั่วไป ซึ่งไม่ได้ใช้ความร้อนสูงมากเท่าขนมปังกรอบ มักมีอายุการเก็บรักษาประมาณ 10 วัน และหากเก็บรักษาในที่แห้ง อุณหภูมิต่ำ หรือในตู้เย็น ก็สามารถยืดอายุได้ราว 2-3 วัน และยังสามารถรับประทานได้อยู่ แต่หากมีการเก็บไว้บริโภคซ้ำหลายวัน การเปิดปิดภาชนะบรรจุบ่อยครั้ง และเก็บรักษาไม่ดีพอ ก็อาจทำให้อายุการเก็บรักษาสั้นลงได้ เพราะความชื้นจากอากาศและเชื้อจุลินทรีย์ภายนอก ที่ปนเปื้อนเข้าไปจะทำให้ขนมปังเสียได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ขนมปังโดยทั่วไปมักเสียเนื่องจากเชื้อรา และสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า หากพบว่ามีเชื้อราหรือมีเส้นใยฟูๆ ขึ้นตามขนมปัง ก็ไม่ควรรับประทานอีกต่อไป
อาหารกระป๋อง
อาหารกระป๋องโดยทั่วไป มีอายุการเก็บรักษานานกว่าอาหารในบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่น เพราะผ่านกระบวนการผลิตที่มีการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์อย่างดีมาก จึงมักเก็บรักษาได้นานประมาณ 1-2 ปี เช่น ผลไม้กระป๋อง และปลากระป๋อง และหลังจากเลยวันหมดอายุไปแล้วไม่กี่วันก็ยังสามารถรับประทานได้โดยไม่มีอันตรายใดๆ เพียงแต่ลักษณะหรือสีสันอาจแปรเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อยเท่านั้น
เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์
เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ที่วางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตมักระบุวันหมดอายุไว้ด้วย และส่วนใหญ่เก็บรักษาอยู่ในที่อุณหภูมิต่ำตลอดเวลา รวมทั้งผ่านกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างสะอาด และการแบ่งจำหน่ายก็มักไม่มีการสัมผัสกับเนื้อสัตว์โดยตรง จึงลดโอกาสการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ในระดับหนึ่ง และโอกาสเน่าเสียก็จะน้อยกว่าเนื้อสัตว์ที่จำหน่ายในตลาดสดทั่วไป
ดังนั้นแม้จะเลยวันหมดอายุที่ระบุไว้แล้ว แต่หากยังมีลักษณะที่ดี มีสีสันสดตามธรรมชาติ และไม่มีเมือก ก็ยังสามารถนำมาปรุงอาหารได้ และหากเก็บรักษาแช่แข็งไว้ในตู้เย็นก็จะช่วยยืดอายุและรักษาคุณภาพไปได้อีกหลายวัน
อย่างไรก็ตาม นายกสมาคมโฟสแตตแนะนำเพิ่มเติมว่า การบริโภคอาหารทุกชนิด จะต้องดูลักษณะหน้าตาของอาหารก่อนเป็นอันดับแรก ว่าผิดปกติไปจากธรรมชาติที่ควรเป็นหรือไม่ เช่น มีเส้นใยฟูๆ หรือ มีลักษณะเป็นเมือกหรือไม่ ถ้ามีก็ไม่ควรซื้อและไม่ควรรับประทาน หรือหากซื้ออาหารมาแล้วควรเก็บที่อุณหภูมิต่ำ ซึ่งจะช่วยควบคุมเชื้อจุลินทรีย์ได้ หรืออาจทำให้สุกก่อนรับประทาน
ทั้งนี้ หากอาหารยิ่งใกล้วันหมดอายุ ก็ควรรีบรับประทานให้หมดเสียก่อน และหากพบว่าเลยวันหมดอายุแล้ว ไม่ควรรับประทานจะดีที่สุด.
จาก ASTV online ฉบับวันที่ 2 มกราคม 2553
Relate topics
- รณรงค์เลิกใช้โฟม
- รายการสงขลามหาชน ตัวอย่างอาหารของแม่ ตอน " บทบาทของพ่อ " อาหารของแม่ สร้างความอบอุ่นของครอบครัวกับมื้ออร่อยที่แม่บรรจงปรุงเพื่อลูก
- ข่าวดีจะดัง ตอนที่ 265 โรงเรียนสุขภาพดี ของ อบต.ควนรู( http://youtu.be/KsuLA7Fguy8 )
- ข่าวดีจะดัง ตอนที่ 265 โรงเรียนสุขภาพดี ของ อบต.ควนรู(7 เม.ย 5…: http://youtu.be/KsuLA7Fguy8 )
- รายการอาหารของแม่ ตอน " อาหารคือภาคีและพื้นที่ " เปิดอร่อยด้วย ยำบัวบก สูตรสมุนไพรภูมิปัญญาถิ่น อบต.ท่าข้าม ของป้ายุพา ผลชนะ