เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

สคบ. ปรับโครงสร้างองค์กร รับยุทธศาสตร์การทำงานเชิงรุก ตั้ง 2 หน่วยงานใหม่ หวังยกมาตรฐานการคุ้มครองบริโภค และลดการร้องเรียน

นายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า สคบ.ได้มีการปรับโครงสร้างภายในองค์กร เพื่อสานนโยบายการทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยได้จัดตั้ง 2 หน่วยงานใหม่ขึ้นมา ได้แก่ สำนักงานตรวจและประสานงานคุ้มครองผู้บริโภคประจำภาค และศูนย์กลางทดสอบสินค้า พร้อมทั้ง ยกระดับส่วนงานขายตรงและตลาดแบบตรงขึ้นเป็นระดับกอง จากเดิมเป็นส่วนงานอยู่ในสำนักกฎหมายและคดี เนื่องจากเป็นหน่วยงานต้องรับผิดชอบกฎหมายขายตรงและตลาดแบบตรง ซึ่งเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ จึงต้องเพิ่มอำนาจหน้าที่เพื่อให้สามารถดูแลได้ครอบคลุม โดยสำนักงานตรวจและประสานงานคุ้มครองผู้บริโภคประจำภาค มีทั้งหมด 4 ภาค แบ่งเป็นภาค 1. ดูแลภาคกลาง ภาค 2. ดูแลงานภาคตะวันออก ภาค 3. ดูแลงานภาคเหนือ และภาค 4 ดูแลงานภาคใต้ จากแผนโครงสร้างเดิมกำหนดจะแบ่งเป็น 9 ภาค แต่ละภาคดูแลครอบคลุมแค่ 10 จังหวัด แต่ด้วยปัญหาในเรื่องของบประมาณและอัตราการขอกำลังเพิ่ม สคบ.จึงใช้การเพิ่มบทบาทของสำนักงานตรวจ ให้ทำงานครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น
ทั้งนี้ สำนักงานตรวจและประสานงานคุ้มครองผู้บริโภค ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ พร้อมคำแนะนำ ดูแลผู้บริโภครู้จักรักษาสิทธิของตัวเอง และป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนเสียหาย รวมทั้งประสานความร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่น เพราะปัจจุบันงานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นงานฝากของจังหวัด ซึ่งจะทำให้งานอยู่ลำดับความสำคัญท้ายๆ เหตุเพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำคอยให้แนะนำ ทำให้ผู้บริโภคยังถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ ในปีที่ผ่านมา สคบ.ได้มีการนำร่องตั้งสำนักงานตรวจและประสานงานคุ้มครองผู้บริโภค ใน 2 ภาค คือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ทำหน้าที่เสมือนเป็นพี่เลี้ยงให้ความช่วยเหลือ แนะนำ เสนอแนะ พร้อมการให้ความรู้ผู้บริโภค ซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ ที่ไม่มีสำนักตรวจฯภาคตั้งอยู่ พบว่าทั้งเรื่องร้องเรียนลดลง และการแก้ปัญหาความเดือดร้อนผู้บริโภคได้มากขึ้น นอกจากนี้ ดำเนินการต่อเนื่อง ในการกระจายอำนาจสู่ภูมิภาค ด้วยการใช้กลไกของอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดให้มากขึ้น เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของผู้บริโภคในจังหวัดได้เบ็ดเสร็จ รวมถึงส่งเสริมการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับจังหวัด ระดับอำเภอให้มากขึ้น และจัด สคบ.สัญจร เพื่อให้ผู้บริโภคมีความเข้มแข็งรักษาสิทธิของตัวเองได้


  โปรดติดตามตอนต่อไป.......

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์