เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขานุการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ถึงกรณีที่ ครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ...

ว่า เป็นเรื่องที่ดีและขอให้การสนับสนุน เนื่องจากที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคมากว่า มีการโทรมาขายสินค้ารวมถึงการส่งข้อความมายังมือถือเพื่อขายสินค้าโดยเข้าของเลขหมายไม่ต้องการ ซึ่งถือเป็นการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยต้นทางข้อมูลที่รั่วออกไปนั้นมีหลายทาง อาทิ จากธนาคารและสถาบันทางการเงิน จนมีผู้ประกอบการนำไปใช้เป็นฐานในการขายสินค้า จากการตรวจสอบพบว่าบางบริษัทมีฐานข้อมูลส่วนบุคคลมากถึง 30 ล้านเลขหมายโดยไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้นนอกจากออกกฎหมายแล้ว ต้องมีการสอบสวนที่มาที่ไปด้วย เพราะเรื่องนี้รุนแรงกว่าการขายตรง เพราะการขายตรงยังมีคนกลางไปขาย แต่การโทรไปยังมือถือหรือส่งแมสเสจไปโดยตรงเป็นการละเมิดสิทธิปละรบกวนผู้บริโภคแบบเต็มๆ ที่ผ่านมาร้องเรียนกันมาก ทั้งขายของ ดูดวง หรือให้ดาวน์โหลดเพลงและอะไรต่างๆ

น.ส.สารี กล่าวว่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา แม้จะมีความร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือในการบล็อกหลังจากเจ้าของเลขหมายแจ้งมา แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะเมื่อบล็อกบริษัทหนึ่ง แต่ผ่านไปก็มีบริษัทอื่นทั้งโทรและส่งแมสเสจเข้ามาอีก ทำให้โอเปอร์เรเตอร์ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือตามไม่ทัน ปัญหาจึงไม่สิ้นสุด ดังนั้นถึงเวลาต้องวางระบบกันใหม่ โดยต้องมีกฎหมายขึ้นมาเป็นการเฉพาะ ขณะนี้ทางสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิมนุษยชนกำลังศึกษาระบบที่มีการใช้กันในต่างประเทศคือ ระบบ Do not call ซึ่งใช้กันแพร่หลาย หลักการคือ ให้เจ้าของเลขหมายสมัครใจมาขึ้นทะเบียนว่าไม่ต้องการให้มีการโทรหรือส่งแมสเสจมาขายสินค้า จากนั้นโอเปอร์เรเตอร์จะบล็อกให้ทั้งหมด


ข้อมูลจาก นสพ.มติชน 07/10/52