ครม.พิจารณาร่าง กม.คุ้มครองข้อมูลบุคคล ป้องกันนำไปใช้เชิงพาณิชย์โดยไม่ได้อนุญาต ทำเจ้าของเดือดร้อน มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสน ล้างบางพวกโทร.ขายประกัน-ขายของ-ขายบัตร คุมเข้มข้อมูล "ศึกษา-การเงิน-สุขภาพ-งาน-รูป-คดี"
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 6 ตุลาคม นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สาระสำคัญกำหนดให้เป็นกฎหมายกลางในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการทั่วไปใช้บังคับแก่ผู้ประมวลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งที่เป็นบุคคล องค์กร หรือหน่วยงานของรัฐที่มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานเชิงธุรกิจหรือการพาณิชย์ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากปัจจุบันมีการล่วงละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปแสวงหาประโยชน์ หรือเปิดเผยโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบุคคลเจ้าของข้อมูลจนสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือความเสียหายให้เจ้าของข้อมูล
ข่าวแจ้งอีกว่า เนื้อหาในมาตรา 3 ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับตัวของบุคคล เช่น การศึกษา ฐานะการเงิน ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม ประวัติการทำงาน หรือกิจกรรมที่บุคคลนั้น มีชื่อหรือมีเลขหมาย รหัส อาทิ ลายพิมพ์นิ้วมือ รูปถ่าย รวมถึงข้อมูลเฉพาะตัวของผู้ที่ถึงแก่กรรมแล้วด้วย นอกจากนี้ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบาย มาตรการ แนวทางคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับข้อห้ามในมาตรา 23 ห้ามมิให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเก็บรวบรวมข้อมูลต้องห้าม อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม หรือการประทำผิดและการได้รับโทษใดๆ แหล่งกำเนิดเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อทางศาสนา ข้อมูลที่อาจเป็นผลร้าย ทำให้เสียชื่อเสียง หรืออาจก่อให้เกิดความรู้สึกเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมหรือความไม่เท่าเทียมกันแก่บุคคลใด
มาตรา 25 ห้ามมิให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแล โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลออกไปนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ การเปิดเผยต่อทนายความของผู้ควบคุมข้อมูลเพื่อให้ว่าความดำเนินคดีในคดีใดคดีหนึ่ง หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการเรียกเก็บหนี้ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องชำระให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐร้องขอในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเกี่ยวข้องกับความมั่นคงประเทศหรือกิจการระหว่างประเทศ เพื่อดำเนินคดีนอกราชอาณาจักร หรือเพื่อป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการก่อการร้าย
มาตรา 32 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องจัดให้มีระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยแก่ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันมิให้มีการนำไปใช้หรือเปิดเผยโดยไม่เหมาะสมหรือเป้นผลร้ายต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย ทำลาย ถูกเรียกดู สืบค้น เชื่อมโยง เปิดเผย ทำสำเนา หรือเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยอย่างน้อยต้องมีหลักเกณฑ์ในการรักษาความปลอดภัยดังนี้ จัดให้มีระบบสารสนเทศและระบบสำรองสารสนเทศในสภาพพร้อมใช้งาน ตรวจสอบประเมินความเสี่ยงด้านเทคโยโลยีสม่ำเสมอ
มาตรา 34 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเชิงธุรกิจหรือการพาณิชย์ สำหรับกิจการทุกประเภทที่เป็นการหากำไรหรือรายได้ ต้องควบคุมดูแลรับผิดชอบลูกจ้างของตนทั้งหมด เพื่อมิให้กระทำการฝ่าฝืนตาม พ.ร.บ. นอกจากนี้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ยังมีสิทธิขอตรวจดูข้อมูลของตัวเอง ทำสำเนา ขอให้แจ้งการมีอยู่หรือการเปิดเผยข้อมูล แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ลบทำลายข้อมูลเมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษา ขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่เกี่ยวกับตน ในกรณีเจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ทั้งนี้ หากผู้เก็บรวบรวมข้อมูลเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยฝ่าฝืนเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์ในทางค้าขาย ทำให้เจ้าของข้อมูลได้รับความเสียหาย ผู้นั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลขึ้น เพื่อตรวจสอบการกระทำใดๆ ที่เป็นการละเมิด โดยเจ้าของข้อมูลที่ได้รับความเสียหายมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการ หากไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้ควบคุมข้อมูลแก้ไขการกระทำในระยะเวลาที่กำหนด หรือสั่งห้าม ในกรณีไม่ยอมดำเนินการตามสั่ง ให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับการบังคับทางปกครองมาใช้ รวมทั้งการยึด อายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ควบคุมข้อมูล
ข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับกำหนดโทษปรับทางปกครอง ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคำ หรือส่งวัตถุเอกสาร พยานหลักฐานแก่คณะกรรมการ ต้องระวางโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 50,000 บาท ผู้ควบคุมข้อมูลใดฝ่าฝืนในการปฏิบัติเผยแพร่ ระวางโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับโทษอาญา ระวางโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นการเผยแพร่ทางสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่น ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามร่าง พ.ร.บ.ไม่ใช้บังคับแก่บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้เฉพาะเพื่อกิจการสื่อมวลชน งานศิลปกรรม หรืองานวรรณกรรมเท่านั้น
Relate topics
- ใบสำคัญรับเงิน
- ศูนย์เรียนรู้วิถีธรรมชาติ จะนะ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย โดย อ.จินตนา เจริญเนตรกุล ได้จัดอบรมการแปรรูปอาหารทะเล เช่น การทำข้าวเกรียบ
- บรรยากาศการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติ สุดยอดความอลังการ หนึ่งในกิจกรรมงานอาหารของแม่ เพื่อเทิดพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน ณ ถนนสเน่หานุสรณ์
- บรรยากาศงานตลาดนัดเกษตรกรโอเดียน ประจำเดือนกรกฎาคม เมื่อวันที่ 4 ก.ค.58 โดยภายในตลาดไดมีคุณวรรณา สุวรรณชาตรี ผู้ประสานงานโครงการประชุมและเยี่ยมชมตลาด
- วันนี้ โครงการอาหารเป็นยา ปีที่ 2 อาหารเป็นยาสมุนไพร: กรณีศึกษาจังหวัดสงขลา (Food as herbal medicine: A case study of Songkhla province)