นักวิจัยเตือนอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักช่วยให้มีหุ่นเพรียวขึ้น แต่ทำให้หน้าแก่กว่าวัย
ผลวิจัยของแพทย์พบว่า การลดน้ำหนักลงราว 4.5 ก.ก. ช่วยให้ผู้หญิงมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ลง 4 ปี งานวิจัยชิ้นนี้ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหนักตัวกับความดูอ่อนกว่าวัย หรือแก่กว่าวัย โดยติดตามข้อมูลดัชนีมวลกายของผู้หญิงฝาแฝด 200 คู่เป็นเวลา 2 ปี
นายแพทย์บาฮามัน กายยูรอน นักวิจัยกล่าว "ดัชนีมวลกายที่สูงขึ้น 4 จุด ทำให้ผู้หญิงดูอ่อนเยาว์ลงประมาณ 2-4 ปี ในกรณีสตรีที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป"
รายงานซึ่งตีพิมพ์ในวาสาร Plastic and Reconstructive Journal ระบุว่า การมีน้ำหนักตัวลดลง 4.5 ก.ก. ทำให้ผู้หญิงดูอ่อนเยาว์ลงไป 4 ปี สถานภาพสมรสก็มีผลต่อกระบวนการแก่ตัวด้วยเช่นกัน โดยคนที่หย่าร้างจะดูแก่กว่าคนที่มีครอบครัวหรืออยู่เป็นโสด
"ฝาแฝดที่หย่าร้างจะแลดูแก่กว่าคู่แฝดที่ไม่ได้หย่าร้างประมาณ 1.7 ปี นายแพทย์ประจำมหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ ในเมืองคลิฟแลนด์ มลรัฐโอไอโอผู้นี้กล่าว นอกจากนี้ ภาวะซึมเศร้าก็ทำให้ดูแก่กว่าวัยได้เช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการอาบแดด
ตอนนี้คุณหมอกำลังศึกษาคู่แฝดผู้ชาย เพื่อดูว่าภาวะการแก่ตัวของผู้ชายจะมีลักษณะแบบเดียวกันนี้หรือไม่
ราจีฟ โกรเวอร์ เลขาธิการสมาคมศัลยกรรมเพื่อความงามของอังกฤษบอก "สิ่งที่ทำให้คนเราดูแก่กว่าวัยไม่ใช่ริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า"
โกรเวอร์ ศัลยแพทย์ความงามประจำโรงพยาบาลคิงเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ในกรุงลอนดอน บอก ว่า คนส่วนใหญ่พบว่าแก้มของตัวเองเริ่มตอบลงเมื่ออายุราว 38 ปี แต่คนที่อดอาหารอย่างเคร่งครัดเกินไปจะมีลักษณะที่ว่านี้อย่างเห็นได้ชัด
"ยิ่งมีไขมันบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้มก็จะยิ่งดูอ่อนเยาว์" เขาบอก.
นสพ.โพสต์ทูเดย์ 07/04/52
Relate topics
- ใบสำคัญรับเงิน
- ศูนย์เรียนรู้วิถีธรรมชาติ จะนะ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย โดย อ.จินตนา เจริญเนตรกุล ได้จัดอบรมการแปรรูปอาหารทะเล เช่น การทำข้าวเกรียบ
- บรรยากาศการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติ สุดยอดความอลังการ หนึ่งในกิจกรรมงานอาหารของแม่ เพื่อเทิดพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน ณ ถนนสเน่หานุสรณ์
- บรรยากาศงานตลาดนัดเกษตรกรโอเดียน ประจำเดือนกรกฎาคม เมื่อวันที่ 4 ก.ค.58 โดยภายในตลาดไดมีคุณวรรณา สุวรรณชาตรี ผู้ประสานงานโครงการประชุมและเยี่ยมชมตลาด
- วันนี้ โครงการอาหารเป็นยา ปีที่ 2 อาหารเป็นยาสมุนไพร: กรณีศึกษาจังหวัดสงขลา (Food as herbal medicine: A case study of Songkhla province)