ตามที่มีการประชุมคณะกรรมนโยบายแอลกอฮอล์แห่งชาติ มีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสร์ เป็นประธาน ภายหลังที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า การประกาศห้ามจำหน่ายสุราไม่ขัดต่อประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ มีมติไม่เห็นด้วยกับมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีเพียงกระทรวงสาธารสุข และกระทรวงยุติธรรม 2 เสียงที่เห็นด้วยกับมาตรการนี้เท่านั้น ส่วนอีก11 เสียง จากคณะกรรมการ 8 กระทรวง 5 หน่วยงานนั้น ไม่เห็นด้วย แม้จะห้ามวันเดียว คือ วันที่ 13 เมษายน เนื่องจากกลัวว่าจะกระทบการท่องเที่ยว
โดยที่ประชุมจึงมีมติให้ออกมาตรการรองรับ โดยให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามคณะกรรมการนโยบายฯ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ. 2551 ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องควบคุมสถานที่ห้ามดื่มเครื่องแอลกอฮอล์เพิ่มเติม เช่น ท้ายรถกระบะ
"คณะกรรมการนโยบายฯ ไม่เห็นด้วยกับการห้ามดื่ม และห้ามจำหน่าย บนท้องถนนและฟุตบาท ซึ่งเป็นข้อเสนอก่อนหน้านี้ที่ได้หารือกัน เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยว หลายแห่งอยู่บนถนนจะได้รับผลกระทบไปด้วย เช่น ถนนข้าวสาร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างประกาศ เพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรีเซ็นลงนามเห็นชอบ ให้มีผลบังคับใช้ทันเทศกาลการสงกรานต์" นายมานิตย์ กล่าวและว่า
คณะกรรมการนโยบายฯ จะมีการออกมาตรการอื่นๆ มารองรับเพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยจะตั้งจุดตรวจวัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทุกหมู่บ้าน ซึ่งปีที่ผ่านมา มีการตั้งจุดตรวจแค่ 8,000 กว่าแห่ง แต่ปีนี้จะเพิ่มเป็นทุกหมู่บ้านเป็นหลายหมื่นจุดทั่วประเทศ โดยให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อยู่ประจำจุดตรวจด้วย โดยในวันที่ 2 เมษายนนี้ตนจะประชุมร่วมกับอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส. ) เพื่อวางหลักเกณฑ์การทำงานของ อสม.ในเรื่องนี้
ข้อมูลจากมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) เฉลี่ยการเสียชีวิตในช่วง 2541-2545 ในช่วงสงกรานต์สูงกว่าช่วงเวลาปกติมากถึง 3 เท่า คือ 95 คนต่อวัน ในช่วงปกติมียอดเสียชีวิต 33 รายต่อวัน และในปี 2551 ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตในช่วงสงกรานต์มีอุบัติเหตุมากถึง 4,243 ครั้ง และเสียชีวิตมากถึง 368 ราย
เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคใต้รู้สึกผิดหวัง และเกินความคาดหมาย เพราะเดิมคาดว่า มติของคณะกรรมการเหล้า น่าจะประกาศห้ามขายเหล้า 1วันคือ วันที่ 13 เมษายน แต่ มติเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการขายเหล้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะแสดงให้เห็นว่า บอร์ดชุดนี้ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของธุรกิจน้ำเมา มองไม้เห็นผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนเห็นคุณค่าของคน น้อยกว่า ผลประโยชน์จากการได้รับจากธุรกิจน้ำเมา
จึงอยากให้มีความเข้มงวดกัยมาตรการควบคุม ตามกฏหมาย ใน 3 ข้อคือ 1 เอาจริงเอาจังกับจุดขายเหล้าและช่วงเวลาในการขาย และ 2 ต้อมเข้มงวดกับการตั้งด่านตรวจสอบคนเมาแล้วขับ และสุดท้าย การสนับสนุนบทลงโทษสูงสุดเพราะหากเมาแล้วบทลงโทษสูงสุด 2หมื่นบาทหากเกิดอุบัติเหตก็ปรับสูงถึง 2แสนบาท ผมคิดว่ารัฐควรจเข้มงวดมากกว่านี้
Relate topics
- ใบสำคัญรับเงิน
- ศูนย์เรียนรู้วิถีธรรมชาติ จะนะ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย โดย อ.จินตนา เจริญเนตรกุล ได้จัดอบรมการแปรรูปอาหารทะเล เช่น การทำข้าวเกรียบ
- บรรยากาศการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติ สุดยอดความอลังการ หนึ่งในกิจกรรมงานอาหารของแม่ เพื่อเทิดพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน ณ ถนนสเน่หานุสรณ์
- บรรยากาศงานตลาดนัดเกษตรกรโอเดียน ประจำเดือนกรกฎาคม เมื่อวันที่ 4 ก.ค.58 โดยภายในตลาดไดมีคุณวรรณา สุวรรณชาตรี ผู้ประสานงานโครงการประชุมและเยี่ยมชมตลาด
- วันนี้ โครงการอาหารเป็นยา ปีที่ 2 อาหารเป็นยาสมุนไพร: กรณีศึกษาจังหวัดสงขลา (Food as herbal medicine: A case study of Songkhla province)