เผย สเต็มเซลล์รักษาได้ผลจริงเฉพาะผู้ป่วยโรคเลือด โรคมะเร็งเม็ดเลือด โรคเลือดที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม และรักษาผู้ป่วยที่ไขกระดูกถูกทำลายจากยารักษามะเร็ง ซึ่งจะช่วยผู้ป่วยให้มีอาการดีขึ้นเพียงช่วงหนึ่งเท่านั้น แต่ยังไม่พบผลการศึกษาวิจัยว่า สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ เตือน! อย่าหลงเชื่อการโฆษณาอวดอ้างต่างๆ ว่า สเต็มเซลล์ สามารถทำให้ขาวขึ้น สวยขึ้น เพราะยังไม่มีการพิสูจน์หรือยืนยันว่าใช้ได้จริง และอาจมีผลข้างเคียงจากการรักษา เนื่องจากยังไม่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันด้านความปลอดภัย ในเร็ว ๆ นี้ อย. จะออกประกาศเพื่อให้สเต็มเซลล์เป็นยาที่ใช้ในการศึกษาวิจัยหากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก www.oryor.com/oryor_stemcell/
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการกล่าวถึงผลิตภัณฑ์จากเซลล์ต้นกำเนิด หรือที่รู้จักกันในชื่อของสเต็มเซลล์ "Stem Cell" อย่างแพร่หลาย โดยพบว่า มีการนำข้อมูลทางการแพทย์ที่ยังไม่สมบูรณ์มาแอบอ้างเพื่อหารายได้ ก่อให้เกิดความเข้าใจที่ผิด เพื่อป้องกันมิให้ตกเป็นเหยื่อการโฆษณาชวนเชื่อ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอาง ที่มักมีการแอบอ้างนำสเต็มเซลล์มาใช้ในทางการค้า รู้สึกห่วงใยผู้บริโภค เกรงจะถูกหลอกลวง จึงขอแจ้งให้ทราบว่า แท้จริงแล้ว “สเต็มเซลล์” คือ เซลล์ที่ยังไม่เจริญเต็มที่ สามารถแบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัด และสามารถให้กำเนิดเซลล์ที่กลายเป็นเซลล์ในร่างกายได้หลายชนิด ซึ่งมีทั้งสเต็มเซลล์ของตัวอ่อน มีคุณสมบัติคือ ให้กำเนิดเซลล์ของร่ายกายได้ ทุกชนิด และสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อเพาะ หรือที่นิยมเรียกว่า สเต็มเซลล์ของผู้ใหญ่ พบในเกือบทุกเนื้อเยื้อในร่างกาย เช่น ไขกระดูก กล้ามเนื้อ สมอง ผิวหนัง ลำไส้ แต่ไม่สามารถให้กำเนิดเซลล์ร่างกายได้ทุกชนิดเหมือนตัวอ่อน
เลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าปัจจุบันในวงการแพทย์ยอมรับว่า เซลล์ต้นกำเนิดที่รักษาได้ผลจริงเฉพาะในโรคเลือดเท่านั้น เช่น ใช้รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือด โรคเลือดที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม และรักษาผู้ป่วยที่ ไขกระดูกถูกทำลายจากยารักษามะเร็ง โดยจากการศึกษาวิจัยส่วนใหญ่พบว่า การใช้สเต็มเซลล์ต้นกำเนิดจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น เพียงช่วงหนึ่งเท่านั้น แต่ยังไม่พบผลการศึกษาวิจัยว่า สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ และอาจมีผลข้างเคียงจากการรักษาได้เนื่องจากยังไม่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ การโฆษณาอวดอ้างต่าง ๆ ว่าสเต็มเซลล์สามารถทำให้ขาวขึ้น สวยขึ้นนั้น ยังไม่มีการพิสูจน์หรือยืนยันว่าใช้ได้จริง และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง อย. ห้ามมิให้ใช้เซลล์เนื้อเยื่อหรือผลิตภัณฑ์มนุษย์เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า แม้ว่า พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 สเต็มเซลล์จะเข้าข่ายเป็นยา แต่เนื่องจากอาจมีความคลาดเคลื่อนหรือเข้าใจไม่ตรงกัน อย. ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว รวมถึงความจำเป็นและแนวโน้มการพัฒนาสเต็มเซลล์จึงได้จัดทำระบบกำกับดูแลผลิตภัณฑ์จากสเต็มเซลล์ เพื่อรองรับการผลิตหรือนำเข้า อีกทั้ง ยังร่วมมือกับ แพทยสภา และกองการประกอบโรคศิลปะเพื่อให้ความรู้แก่ผู้บริโภค สร้างความมั่นใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ไม่ตกเป็นเหยื่อการโฆษณาอวดอ้างเกินจริง เสียเงินและเสียโอกาสในการรักษา นอกจากนี้ อย. ได้เตรียมออกประกาศสำนักงานฯ เพื่อกำหนดมาตรการในการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์สเต็มเซลล์ โดยถือว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ นอกจากที่ใช้เป็นมาตรฐานในการรักษาจะจัดเป็นยาที่อยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย ซึ่งจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายยา มิฉะนั้น จะเป็นการผลิตหรือนำเข้ายาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา หากผู้บริโภคมีข้อสงสัยหรือพบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สเต็มเซลล์ โทร. สายด่วน อย. 1556
Relate topics
- ใบสำคัญรับเงิน
- ศูนย์เรียนรู้วิถีธรรมชาติ จะนะ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย โดย อ.จินตนา เจริญเนตรกุล ได้จัดอบรมการแปรรูปอาหารทะเล เช่น การทำข้าวเกรียบ
- บรรยากาศการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติ สุดยอดความอลังการ หนึ่งในกิจกรรมงานอาหารของแม่ เพื่อเทิดพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน ณ ถนนสเน่หานุสรณ์
- บรรยากาศงานตลาดนัดเกษตรกรโอเดียน ประจำเดือนกรกฎาคม เมื่อวันที่ 4 ก.ค.58 โดยภายในตลาดไดมีคุณวรรณา สุวรรณชาตรี ผู้ประสานงานโครงการประชุมและเยี่ยมชมตลาด
- วันนี้ โครงการอาหารเป็นยา ปีที่ 2 อาหารเป็นยาสมุนไพร: กรณีศึกษาจังหวัดสงขลา (Food as herbal medicine: A case study of Songkhla province)