การใช้ขี้ผึ้งพาราฟิน (Paraffin Wax) เคลือบผิวหน้าผลิตภัณฑ์กะปิ เพื่อป้องกันไม่ให้กะปิเปลี่ยนสีนั้น อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้
นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับการแจ้งให้ตรวจสอบกะปิเคลือบขี้ผึ้งที่เตรียมส่งไปจำหน่ายยังสหภาพยุโรป (อียู) พบว่า ขี้ผึ้งพาราฟิน เป็นไขมันที่ได้จากการกลั่นจากปิโตรเลียม มีลักษณะใส ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติ คล้ายกับขี้ผึ้ง จุดหลอมเหลวที่ 47-64 องศาเซลเซียส
ขี้ผึ้งพาราฟินบริสุทธิ์มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี ไม่ละลายน้ำ แต่จะละลายได้ดีในอีเทอร์ (Ether) เบนซีน (Benzene) และเอสเทอร์บางชนิด (Certain esters) ทั้งนี้ พาราฟินมักนำมาทำเทียนไข เคลือบไขผ้า กระดาษ ไขเนยแข็ง และวัสดุต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นทำให้เกิดการแข็งตัวและจับตัวเป็นก้อน หรือเคลือบไขเพื่อป้องกันรักษาพื้นผิวต่างๆ จากน้ำและความชื้น ใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง เป็นต้น
อย่างไรก็ดี การใช้ขี้ผึ้งพาราฟินเคลือบผิวหน้าผลิตภัณฑ์กะปิเพื่อส่งออกไปยังอียูนั้น ขณะนี้อียูไม่อนุญาตให้ใช้ขี้ผึ้งพาราฟินสัมผัสกับอาหารโดยตรง เนื่องจากอาจเกิดการปนเปื้อนของน้ำมันและสารอันตรายอื่นๆ ที่เป็นพิษ และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้ จากการประเมินข้อมูลความเสี่ยงด้านพิษวิทยาของ Joint FAO/WHO Expert Committee on Food Additives (JECFA) ได้ถอนค่า Acceptable Daily Intake (ADI) ซึ่งแสดงถึงความไม่ปลอดภัยในการใช้ขี้ผึ้งพาราฟินในอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากพบอาการไม่พึงประสงค์ของสัตว์ทดลองที่ได้รับขี้ผึ้งพาราฟินที่มีความเข้มข้นต่ำ เช่น ทำให้เซลล์ตับเกิดความผิดปกติ และอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
จึงขอเตือนผู้ประกอบการผลิต หรือส่งออกผลิตภัณฑ์กะปิ อย่าใช้ขี้ผึ้งพาราฟินเคลือบผิวหน้ากะปิโดยเด็ดขาด และอย่าซื้อกะปิที่เคลือบผิวหน้าด้วยขี้ผึ้งพาราฟินมารับประทาน หาก อย.ตรวจพบการปนเปื้อนพาราฟินในอาหาร จะถือว่าเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ซึ่งตามกฎหมายกำหนดไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต/นำเข้า เพื่อจำหน่ายซึ่งอาหารไม่บริสุทธิ์ หากผู้ผลิต/ผู้นำเข้า ฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อแก้ไข
1.มีการตรวจสอบกะปิ ว่ามีสารพาราฟินปนเปื้อนหรือไม่ หาก อย.ตรวจพบการปนเปื้อนพาราฟินในอาหาร จะถือว่าเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ซึ่งตามกฎหมายกำหนดไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต/นำเข้า เพื่อจำหน่ายซึ่งอาหารไม่บริสุทธิ์ หากผู้ผลิต/ผู้นำเข้า ฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.ในกรณีของกะปิที่วางขายตามท้องตลาด ก็สังเกตว่าผ่านการตรวจสอบของอย.หรือยัง ถ้ายังก็ต้องติดต่อสอบถาม หรือเลือกที่จะไม่ซื้อ
3.รณรงค์ให้มีการป้องกันการผลิตและบริโภค
4.ศึกษาผลกระทบ โอกาส ของการบริโภคพาราฟิน ต่อเนื่องในเว็บเกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป
Relate topics
- เปิดศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ต.ควนรู อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
- ตลาดนัดอุทยานอาหาร “วิถีแห่งสุขภาพ วิถีแห่งวัฒนธรรม”
- ศึกษาดูงานโครงการพัฒนาระบบและกลไกเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย
- หาดใหญ่จัดงานเทศกาลอาหารหรอย ผลไม้อร่อย ครั้งที่ 2 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
- อึ้ง! “น้ำมันทอดซ้ำ” หายเกลี้ยงเหลือทำไบโอดีเซลแค่ 5%