เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

กรีนพีซแฉ7สินค้าดังไทย เปื้อน'จีเอ็มโอ'

          อาหารเด็กเนสท์เล่-ซีรีแล็ค เจ้าของเต้นท้าโชว์หลักฐาน

          'กรีนพีซ'แถลงผลตรวจผลิตภัณฑ์อาหารในห้าง พบปนเปื้อนจีเอ็มโอ 7 ชนิด ล้วนยี่ห้อดังเนสท์เล่-ซีรีแลค อัดบริษัทผิดสัญญาเห็นผู้บริโภคไทยเป็นพลเมืองชั้นสอง เรียกร้องรัฐบาลบังคับติดฉลากระบุชัดเจนส่วนผู้ผลิตควรยุตินำเข้าวัตถุดิบจีเอ็มโอ

          เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 เมษายน ที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาพระราม 4 กลุ่มกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมด้วยองค์กรเอกชนด้านการบริโภค และกลุ่มกรีนเน็ท แถลงข่าวเรื่อง การพบอาหารปนเปื้อน จีเอ็มโอที่วางจำหน่ายในประเทศไทย โดย น.ส.อวยพร สุธนธัญญากร เจ้าหน้าที่รณรงค์ด้านพันธุวิศวกรรม กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2543 กรีนพีซได้ออกสำรวจเก็บผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะมีการปนเปื้อนวัตถุที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรม(จีเอ็มโอ) ในห้างสรรพสินค้า กรุงเทพมหานคร(กทม.) จำนวน 30 ชนิดโดยได้ส่งไปตรวจสอบที่ ห้องปฏิบัติการ บริษัทฮ่องกง ดีเอ็นเอ ชิปส์ จำกัดซึ่งใช้มาตรฐานพีซีอาร์ในการตรวจสอบหาการปนเปื้อนของจีเอ็มโอ

          "หลังจากที่ตรวจสอบสินค้าทั้งหมด 30 ชนิด ก็พบว่ามีสินค้า 7 ชนิดที่วางขายในประเทศไทยมีการปนเปื้อน จีเอ็มโอ ซึ่ง 1 ใน 7 อย่างคือ อาหารเด็ก เนสท์เล่ ซีรีแล็ค(อาหารเสริมจากธัญพืชสำหรับทารกและเด็กเล็ก) สินค้าดังกล่าวไม่มีการติดฉลากบอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้บริโภค" น.ส.อวยพรกล่าว

          นางสาวอวยพรกล่าวอีกว่า เป็นเรื่องน่าตื่นตระหนกที่พบว่าผลิตภัณฑ์อาหารในประเทศไทยมีการปนเปื้อนจีเอ็มโอ เพราะแม้แต่นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่ทราบผลดีผลเสียในระยะยาวของอาหารจีเอ็มโอ ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างกับมนุษย์บ้าง และในประเทศไทยเองยังไม่มีกฎหมายที่ชัดเจนในการห้ามการนำเข้าสินค้าจีเอ็มโอ พร้อมทั้งยังไม่มีมาตรการในการติดฉลาก เพราะฉะนั้นการที่มีสินค้าจีเอ็มโอในประเทศไทยจึงไม่ต่างจากการใช้ ผู้บริโภคไทยเป็นหนูทดลอง โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคในอนาคต

          นายจิม ธอมัส เจ้าหน้าที่รณรงค์ด้านพันธุกรรม จากกรีนพีซสากล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าตกใจที่พบผลิตภัณฑ์อาหารในประเทศไทยมีการปนเปื้อนจีเอ็มโอ เพราะอาหารเหล่านี้ไม่มีฉลากบอกเลยว่าเป็นอาหารที่มาจากวัตถุดิบจีเอ็มโอ นอกจากนี้ส่วนใหญ่ของสินค้าที่ตรวจพบในเมืองไทยยังมาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ขายผลิตภัณฑ์ทั่วโลก

          นายจิมกล่าวว่า บริษัทที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่เคยสัญญาว่าจะไม่ใช้วัตถุดิบจีเอ็มโอในการผลิตอาหาร เช่น บริษัทเนสท์เล่ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ เนสท์เล่ ซีรีแล็คสำหรับเด็ก เคยประกาศออกมาครั้งแรกเมื่อปี 2539 ว่าจะไม่ใช้จีเอ็มโอในผลิตภัณฑ์อาหารเด็ก นอกจากนี้ยังประกาศที่จะสนับสนุนการติดฉลากอาหารจีเอ็มโอ โดยจนถึงทุกวันนี้บริษัทเนสท์เล่ยังคงรักษาสัญญา ไม่ผลิตอาหารเด็กที่มาจากวัตถุดิบจีเอ็มโอขายในตลาดต่างประเทศ

          นายจิมกล่าวว่า บริษัทเนสท์เล่ประเทศไทยผิดสัญญาโดยผลิตอาหารเด็กจากวัตถุดิบจีเอ็มโอ และไม่มีการติดฉลากบอกข้อมูลแก่ผู้บริโภคว่าอาหารดังกล่าวมีการปนเปื้อนจีเอ็มโอ

          "นี่คือการผิดสัญญาของบริษัท บริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ดูแลผู้บริโภคในประเทศไทยเป็นเพียงพลเมืองชั้นสอง เช่น มันฝรั่งทอดกรอบพริงเกิลส์ในตลาดต่างประเทศปลอดจากจีเอ็มโอ แต่ในประเทศไทยมีการปนเปื้อนจีเอ็มโอ ซึ่งไม่ต่างจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของบริษัทนิชชิน คัพ นูดเดิ้ลที่ปลอดจีเอ็มโอในประเทศญี่ปุ่น แต่มีการปนเปื้อนจีเอ็มโอในประเทศไทย" นายจิมกล่าว

          นายจิรากรณ์ คชเสนี ผู้อำนวยการบริหารกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า กรีนพีซขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งตัดสินใจในการติดฉลากอาหารจีเอ็มโอ พร้อมทั้งเร่งดำเนินการกำจัดอาหารจีเอ็มโอให้หมดไปจากการผลิตอาหารของไทย นอกจากนี้กรีนพีซขอเรียกร้องให้กลุ่มธุรกิจยุติการนำเข้าวัตถุดิบ จีเอ็มโอเข้ามาในประเทศไทย

          "ที่น่าวิตกคือ อาหารบางชนิดคืออาหารของเด็ก เราไม่รู้ว่า เมื่อลูกหลานของเรากินเข้าไปแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง ที่บริษัทต่างๆ ทำเช่นนี้ เหมือนกับเขากำลังเอาชีวิตของลูกหลานเราเป็นหนูลองยาให้กับผลิตภัณฑ์ของเขา" นายจิรากรณ์กล่าว

          นายวิทูรย์ ปัญญากุล กลุ่มกรีนเน็ท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทย ได้เรียกร้องให้ คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขเร่งผลักดันให้มีการติดฉลากผลิตภัณฑ์ที่มีการปนเปื้อนจีเอ็มโอ และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากจีเอ็มโอเพื่อให้ผู้บริโภคมีสิทธิในการเลือกซื้อและเลือกบริโภคอาหารได้อย่างถูกต้อง กรณีข้าวโพด ถั่วเหลืองที่มีการนำเข้าวัตถุดิบ ที่ปนเปื้อนจีเอ็มโอ รัฐบาลควรจะจำกัดการนำเข้าวัตถุดิบเหล่านี้และกำหนดให้มีการจำแนกประเภทวัตถุดิบเพื่อให้ผู้ประกอบการไทย ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้วัตถุดิบเหล่านี้ มาผลิตเป็นอาหารสามารถเลือกใช้วัตถุดิบที่ปลอดจีเอ็มโอได้ ขณะเดียวกันกระทรวงเกษตรฯควรจะรีบเร่งดำเนินการส่งเสริมปลูกข้าวโพดและถั่วเหลืองเกษตรอินทรีย์เพื่อทดแทนการนำเข้า

          นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากผลพิสูจน์ถึงอันตรายของการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนจีเอ็มโอ ยังไม่มีความชัดเจนในทางวิทยาศาสตร์ ทั้งส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในระดับการวิจัยค้นคว้า ดังนั้นจึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกจนเกินไป

          "ผมเห็นด้วยกับการเร่งให้มีการติดฉลากผลิตภัณฑ์พวกนี้เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก และควรออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องเทคโนโลยีชีวภาพนั้นค่อนข้างเป็นประเด็นใหม่ในสังคมไทย จึงอยากให้ทางศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ (ไบโอเทค) เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้นถึงพิษภัย คุณหรือโทษของจีเอ็มโอ แลให้ความรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง" นายสนธยากล่าว

          นายสนธยากล่าวด้วยว่า จะขอให้ทางไบโอเทค ส่งผลิตภัณฑ์ทั้ง 7 ชนิดไปให้ห้องปฏิบัติการลายพิมพ์ดีเอ็นเอ ของไบโอเทค ร่วมตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยบริโภคอาหารดังกล่าวไปบ้างหรือไม่ นายสนธยากล่าวว่า เคยบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารทั้งหมดที่มีการแถลงว่ามีการปนเปื้อนของวัตถุดิบจีเอ็มโอเมื่อถามต่อว่า มีอาการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายสนธยากล่าวอย่างติดตลกว่า "รู้สึกว่าสมองดีขึ้น"

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนบริษัทอื่นๆ ที่ถูกระบุว่าสินค้ามีส่วนประกอบของจีเอ็มโอนั้น กำลังรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มกรีนพีซ เพื่อที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวกับประชาชนโดยเร็ว