บทความ

บัตรเครดิตหายมีคนนำไปรูด จะทำอย่างไร

by twoseadj @November,07 2011 19.12 ( IP : 223...31 ) | Tags : บทความ
photo  , 250x188 pixel , 11,091 bytes.

ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามีผู้เข้ามาทำการร้องเรียนและปรึกษาเกี่ยวกับ บัตรเครดิตหาย มากพอสมควร เรื่องเด่นสัปดาห์นี้จึงขอหยิบยกขึ้นมาอธิบายให้ท่านผู้อ่านได้ทราบกันและมีความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมายในเรื่องนี้ โดยเรื่องนี้เป็นเคสของ คุณจักรพันธ์ วนสุนทรวงศ์ ซึ่งได้ทำบัตรหายในงาน  Commart Thailand และมีคนนำบัตรเครดิตที่ลักมาไปรูดซื้อสินค้าและทางธนาคารได้ให้ทางคุณจักรพันธ์ ชำระหนี้ที่เกิดขึ้น

ในการใช้บัตรเครดิตไปซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ  ด้วยการลักมาจากผู้ถือบัตรแล้วนำไปปลอมลายมือชื่อของผู้ถือบัตรเครดิตให้เหมือนลายมือชื่อที่ปรากฏทางด้านหลัง  พนักงานร้านค้าที่รับบัตรจะต้องตรวจสอบดูว่า ลายมือชื่อของผู้ถือบัตรเครดิตในขณะนั้นเหมือนลายมือชื่อในบัตรหรือไม่ ถ้าลายมือชื่อของทั้งสองแตกต่างกัน พนักงานของร้านค้าจะต้องปฏิเสธการชำระหนี้ด้วยบัตรเครดิตดังกล่าว  และหากพนักงานไม่ตรวจลายมือชื่อหรือตรวจแล้วมีความแตกต่าง แต่ทางพนักงานก็ยังคงรับอยู่ก็ต้องถือว่า เป็นการกระทำโดยประมาท ซึ่งทางร้านก็จะต้องรับผิดด้วย

และในกรณีที่บัตรเครดิตหายและได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้ทางธนาคารเพื่อยกเลิกบัตรเครดิต เมื่อมีบุคคลอื่นนำบัตรไปใช้ซื้อสินค้าก่อนมีการแจ้งยกเลิก ผู้ถือบัตรย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบของตนได้ แต่ถ้ามีการใช้บัตรเครดิตนั้นซื้อสินค้าหลังมีการแจ้งยกเลิก ผู้ถือบัตรเครดิตนั้นไม่จำต้องรับผิดชอบจากการใช้บัตรเครดิตนั้น

บางคนอาจจะถามว่าในเมื่อเราไม่ได้เป็นคนใช้บัตร ทำไมเราต้องรับผิดในมูลหนี้ที่เราไม่ได้ก่อขึ้น มันยุติธรรมแล้วหรือ  ซึ่งในเรื่องนี้ถ้าไม่มีอะไรแอบแฝงก็น่าเห็นใจเพราะของก็ไม่ได้ใช้แต่กลับต้องเสียเงินชำระหนี้อีก  เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นก็ควรจะต้องระมัดระวังบัตร อย่าหลงลืมไว้ที่ใดเป็นอันขาด ควรเก็บไว้อย่างดีเช่นบุคคลทั่วไปควรระวัง  แต่ถ้าผู้ถือบัตรทำบัตรหายโดยที่ไม่ได้ประมาทแต่อย่างใดแต่กลับถูกคนขโมยไปและนำไปรูดซื้อสินค้า ควรที่จะกระทำดังต่อไปนี้

  1. ต้องรีบไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วที่สุดและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

  2. ต้องนำหลักฐานคือใบแจ้งความหรือบันทึกประจำวันไปที่ธนาคารเพื่ออายัดบัตร

  3. ต้องแสดงตัวว่าเราไม่ได้ใช้บัตรเครดิต  เช่น ลายเซ็นต์การรูดบัตรและที่สำคัญต้องแสดงเวลาว่าในขณะที่มีการรูดบัตรเราอยู่คนละที่ พร้อมมีพยานรู้เห็นหรือยืนยันได้

  4. ยังไม่ต้องชำระเงิน เพราะถ้าจ่ายไปเท่ากับยอมรับในหนี้นั้น

ส่วนทางธนาคารก็อาจยังคงเรียกเก็บเงินอยู่เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเราจะดำเนินการตามขั้นตอนที่ได้กล่าวมาแล้วก็ตาม ซึ่งถ้าทางธนาคารฟ้องก็ต้องต่อสู้กันตามขั้นตอนของศาล  จะชนะหรือแพ้ก็อยู่ที่การพิสูจน์ว่าหลักฐานที่ใช้อ้างอิงนั้น จะมีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด

Comment #1
Posted @March,22 2012 09.44 ip : 118...132

สังเกตุจากพฤติการณ์การรับบัตรเครดิต ร้านค้าบริการมักไม่ตรวจสอบลายมือชื่อเท่าใดนัก ปัญหาจึงเกิดขึ้น ผมมีความเห็นเกี่ยวกับเงื่อนไขการยกเว้นความรับผิด "เมื่อมีบุคคลอื่นนำบัตรไปใช้ซื้อสินค้าก่อนมีการแจ้งยกเลิก ผู้ถือบัตรย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบของตนได้"  นั้น ในทางพิจารณาเพื่อความเป็นธรรมต้องดูพฤติการณ์ของร้านค้าบริการผู้รับบัตรดังกล่าวด้วยว่าได้มีการตรวจสอบลายมือชื่อของผู้ถือบัตรด้วยมาตรฐานของผู้ประกอบการด้วย หากมีข้อเท็จจริงว่ามีลายมือชื่อที่คล้ายกันไม่อาจแยกความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างลายมือชื่อในสลิปกับหลังบัตร ผู้บริโภคก็คงไม่พ้นความรับผิดชอบ  ทั้งนี้ เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค ผู้ออกบัตรและร้านค้าบริการ

Comment #2แนะนำเวปไซต์ให้ความรู้เรื่องบัตรเครดิต
Checkraka
Posted @July,04 2013 16.38 ip : 110...139

แนะนำเวปไซต์ให้ความรู้เกี่ยวกับบัตรเครดิต เข้าไปดูได้ที่ www.checkraka.com

Comment #3
Checkraka
Posted @July,04 2013 17.58 ip : 110...139

www.checkraka.com

Comment #4
Checkraka
Posted @July,04 2013 17.58 ip : 110...139

แสดงความคิดเห็น

กรุณาป้อน Username / Password ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้กับเว็บไซท์แห่งนี้ หรือ สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซท์
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง