ผมข้อเท้าแพลงเข้ารพ.กรุงเทพภูเก็ต แล้วหาหมอกระดูกเอ็กซเรย์และรับยามาทาน หลังจากกินยาได้1ชม.ผมแพ้อย่างหนัก หน้าบวมผื่นขึ้นทั้งตัวจึงย้อนกลับไปที่รพ.เข้าห้องฉุกเฉิน ก็ได้รับการรักษาจนทุเลาลงและให้พักดูอาการ 1 คืน (admid 1คืน)
ประเด็นอยู่ที่ว่า 1.รพ.ไม่มีสวัสดิการการรับผิดชอบต่อยาที่จ่ายให้คนไข้เลยหรือ เพราะความผิดก็ไม่ใช่ของคนไข้ฝ่ายเดียว แต่คนไข้ต้องจ่ายค่ารักษาเต็มจำนวน โดยไม่มีส่วนลดพิเศษจาก รพ.เลย มองดูแล้ว ไม่ต่างอะไรจากร้านขายยาข้างถนนเลย ขายอย่างเดียว ไม่การันตี (ค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นประมาณเกือบ 12,000 แต่โชคดีที่มีประกันสุขภาพ เลยจ่ายส่วนต่างค่าแพทย์+ห้อง 1440.-) ***แล้วถ้าผมไม่มีประกันสุขภาพล่ะ??? คชจ.ไม่ใช่แค่พันกว่าบาท (อีก case หนึ่งดูตอนท้ายนะครับ)
2.ขณะพักดูอาการ หมอกระดูก นพ.ชัยยุทธ์ ก็ได้เข้ามาสอบถามอาการในห้องฉุกเฉินพร้อมทั้งพาหมอฝึกหัดมาดูด้วย(เหมือนเป็นcase study) และพอตอนเช้าก็ได้เข้ามาถามอาการว่า "หายดีแล้วใช่มั้ย" คุยไม่ถึง ครึ่งนาที แต่พอใบเสร็จออกมาผมต้องจ่ายค่า นพ.ชัยยุทธ์ 500.- (ค่านพ.ประจำห้อง 400.-) ถูกต้องแล้วหรือ ตอนแรกก็คิดว่าหมอมาดูเพื่อเป็นเคสตัวอย่าง และมาเยี่ยมคนไข้ด้วยสปิริต ผมแพ้ยาไม่ได้โทษหมอ แต่หมอน่าจะมาเยี่ยมด้วยจรรยาบรรณแพทย์ ไม่ใช่มาถามว่า "ดีขึ้นรึยัง" แต่ไม่มีอำนาจจ่ายยา ไม่มีอำนาจวิเคราะห์อาการเพราะเขาเป็นหมอกระดูก มาเพราะผมแพ้ยาเพราะยาจากเขา
****การไม่ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายไม่ว่า แต่ซ้ำเติมโดยมาสอบถามอาการไม่ถึงนาทีแล้วคิดเงินเพิ่ม 500- จรรยาบรรณแพทย์หายไปไหน เขาอยู่แผนกกระดูก แต่เขามาเยี่ยมคนไข้ที่แพ้ยาจากเขา เขาไม่มีอำนาจวิเคราะห์สั่งจ่ายยาให้ห้องนี้แล้ว แต่เก็บตังค์??????
ประกันของผมก็บอกมาว่า ลูกค้าเขาอีกคนโดนมีดบาดแล้วแพ้ยาเหมือนกันที่รพ.เนี้ยะวันเดียวกันเลย แต่ต้องนอนห้อง ICU ค่าใช้จ่ายเกือบแสน แถมเขาไม่มีประกันสุขภาพอีกต่างหาก มีแค่ประกันอุบัติเหตุ มันก็น่าสนใจอยู่ว่า ทำไมวันเวลาเดียวกัน ลูกค้าประกันเขา แพ้ยาที่เดียวกัน 2 คน (เฉพาะเท่าที่รู้นะครับ) และรพ.ไม่รับผิดชอบคชจ.ใด ๆ ทั้งสิ้น เสมือนว่าเป็นความผิดของคนไข้เอง