อนุกรรมการกลั่นกรองสิทธิประโยชน์สปส. เห็นชอบชงเพิ่มสิทธิประโยชน์รักษาผู้ป่วยโรคเรื้อรัง-ทันตกรรมในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ สั่ง ผอ.สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ศึกษารายละเอียดงบดำเนินการเสนอ คณะอนุกรรมการฯ อีกครั้ง 14 มิ.ย.นี้ พร้อมถกเพิ่มสิทธิอีก 5 รายการ
นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวหลังประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองสิทธิประโยชน์ของสปส.ว่า ที่ ประชุมได้พิจารณากรอบงบประมาณในการดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการแพทย์ ตามที่คณะกรรมการสปส.ได้เห็นชอบในหลักการไปก่อนหน้านี้ ใน 5 รายการ ได้แก่ 1.โรคเรื้อรัง 2.ยาราคาแพง 7 ชนิด 3.โรคไต 4.เจ็บป่วยฉุกเฉิน 5.ทันตกรรม ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ดำเนินการเพิ่มสิทธิ์ประโยชน์ผู้ป่วยโรคเรื้อรังจากเดิมดูแลไม่เกิน 180 วันเพิ่มเป็นให้ดูแลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกรณีเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรม ซึ่งได้มอบให้ สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ของสปส.กลับไปคำนวณงบประมาณดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์ทั้ง 2 กรณีอีกครั้งและจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมในวันที่ 21 มิ.ย.นี้
เลขาธิการสปส. กล่าวอีกว่า ส่วนกรณียาราคาแพง 7 ชนิดให้กลับไปศึกษาจำนวนผู้ใช้ว่าเป็นคนกลุ่มใด อายุเท่าไหร่และต้องใช้ยาจำนวนเท่าใด รวม ทั้งกรณีโรคไตและเจ็บป่วยฉุกเฉินจะต้องกลับไปศึกษาและจัดทำข้อมูลงบประมาณ และรูปแบบการเพิ่มสิทธิประโยชน์อีกครั้ง ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯจะพิจารณาการเพิ่มสิทธิประโยชน์ 5 เรื่องได้แก่ 1.ยาราคาแพง 7 ชนิด 2.โรคไต 3.เจ็บป่วยฉุกเฉิน 4.โรคมะเร็ง และ5.โรคเอชไอวีในการประชุมในวันที่ 14 มิ.ย.นี้
นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล ผอ.สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สปส. กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรอบงบประมาณในการดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการ แพทย์ตามที่คณะกรรมการสปส.ได้เห็นชอบในหลักการไปก่อนหน้านี้ ในรายการต่างๆ ได้แ ก่ การรักษาโดยโรคไต เช่น ผ่าตัดเปลี่ยนไต การให้ยากระตุ้นเม็ดเลือดแดงแก่ผู้ป่วยไตระยะสุดท้าย ทันตกรรม เจ็บ ป่วยฉุกเฉินรักษาได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และยามีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งตนได้เสนอกรอบงบประมาณดำเนินการทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนคาดว่าน่าจะใช้งบประมาณมากกว่านี้โดยประมาณการว่าน่าจะอยู่ที่ 500-600 ล้านบาท
นพ.สุรเดช กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้ให้ตนไปพิจารณารายละเอียดในเรื่องงบประมาณดำเนินการเพิ่มสิทธิ์ประโยชน์ในระยะยาวให้ชัดเจน โดย ยึดหลักให้ผู้ประกันได้รับสิทธิประโยชน์ในการรักษาโดยเท่าเทียมกันแล้วนำ ข้อมูลมานำเสนอต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ส่วนงบประมาณเพิ่มสิทธิประโยชน์เรื่องยาต้านไวรัส เอชไอวี และสิทธิประโยชน์ผู้ป่วยมะเร็งอีก 7 รายการ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 100 ล้านบาท ตนจะไปหาข้อมูลให้ชัดเจนอีกครั้ง และนำเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้เช่นกัน
“ขณะนี้กรอบงบประมาณดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการแพทย์ในรายการต่างๆยัง ไม่ชัดเจนอาจจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นจากที่ได้ประมาณการเบื้องต้นไว้ก็ได้ ดังนั้น ผมจะไปดูรายละเอียดเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯต่อไป” นพ.สุรเดช กล่าว
Relate topics
- ใบสำคัญรับเงิน
- ศูนย์เรียนรู้วิถีธรรมชาติ จะนะ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย โดย อ.จินตนา เจริญเนตรกุล ได้จัดอบรมการแปรรูปอาหารทะเล เช่น การทำข้าวเกรียบ
- บรรยากาศการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติ สุดยอดความอลังการ หนึ่งในกิจกรรมงานอาหารของแม่ เพื่อเทิดพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน ณ ถนนสเน่หานุสรณ์
- บรรยากาศงานตลาดนัดเกษตรกรโอเดียน ประจำเดือนกรกฎาคม เมื่อวันที่ 4 ก.ค.58 โดยภายในตลาดไดมีคุณวรรณา สุวรรณชาตรี ผู้ประสานงานโครงการประชุมและเยี่ยมชมตลาด
- วันนี้ โครงการอาหารเป็นยา ปีที่ 2 อาหารเป็นยาสมุนไพร: กรณีศึกษาจังหวัดสงขลา (Food as herbal medicine: A case study of Songkhla province)