ข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์

สธ.เล็งระดมผู้เชี่ยวชาญถกเชื้อ "อี.โคไล" ระบาด 6 มิ.ย. แนะเลี่ยงกินผักสด-ผลไม้ต้องปอกเปลือก

by twoseadj @June,05 2011 14.06 ( IP : 202...65 ) | Tags : ข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์

นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนถึงการแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรีย อี.โคไล โอ 104Ž ในประเทศแถบยุโรป 12 ประเทศว่า ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ สธ.จะระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัด ทั้งกรมควบคุมโรค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หารือถึงมาตรการเฝ้าระวังว่า จะมีการออกมาตรการใดเพิ่มเติม นอกเหนือจากการเฝ้าระวังเชื้อในสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ


"อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องส่งเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคไปประจำที่สนามบินนานาชาติ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต อีกทั้งประเทศไทยก็มีระบบตรวจสอบผู้โดยสารขาเข้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการให้กรอกเอกสารขาเข้า จะสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพ ซักประวัติโรคเบื้องต้น ขณะเดียวกัน บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ก็มีระบบตรวจสอบผู้โดยสารกลุ่มนี้ด้วย หากพบโรคเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ประจำ ตม.จะทำหน้าที่คัดกรองผู้ป่วยเอง โดยหากพบรายใดมีอาการป่วยที่อาจเข้าข่าย เจ้าหน้าที่จะซักประวัติ และขอที่อยู่ขณะพำนักหรืออาศัยภายในประเทศไทย เพื่อติดตามอาการ ทั้งหมดเป็นขั้นตอนที่มีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องจัดตั้งทีมเฉพาะกิจไปประจำอีก"Žนพ.ไพจิตร์กล่าว และว่า นอกจากนี้ สธ.ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้เฝ้าระวังผู้ที่อาจมีอาการใกล้เคียงโรคนี้


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป สธ.กล่าวว่า เชื้อ อี.โคไล เป็นเชื้อที่อยู่ในลำไส้ของมนุษย์อยู่แล้ว เพียงแต่กรณีนี้มีการติดเชื้อจากภายนอก ชาวยุโรปเชื่อว่าอาจปนเปื้อนมากับอาหาร ทำให้เชื้อ อี.โคไล แตกต่างจากเดิม กลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ โดยเชื้อดังกล่าวเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า เอสทีอีซี (STEC-Shiga toxin-producing Escherichia coli) หรือ E.coli O 104 เป็นเชื้อก่อโรคที่มีความรุนแรงกว่าเดิม โดยเชื้อดังกล่าวจะไปสร้างสารพิษทำลายลำไส้ ทำให้ลำไส้มีเลือดออก และอุจจาระเป็นเลือด ขณะเดียวกันยังส่งผลให้เม็ดเลือดแดงแตกในกระแสเลือด อาจลุกลามไปทำลายไต ก่อให้เกิดไตวาย และหากรักษาไม่ทันจะเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้น ควรป้องกันโดยการดูแลสุขอนามัย ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ปรุงอาหารให้สุก เนื่องจากหากปรุงสุกด้วยความร้อนเกิน 70 องศาเซลเซียส จะทำลายเชื้อนี้ได้ และหากต้องการบริโภคผักผลไม้ก็ต้องล้างให้สะอาด


"หากกังวลมาก ช่วงนี้อาจหลีกเลี่ยงกินผักสด ส่วนผลไม้ก็ควรปอกเปลือก เนื่องจากเชื้อประเภทนี้จะติดบริเวณเปลือก แต่ไม่อยากให้กังวลมาก เพราะประเทศไทยนำเข้าผักผลไม้จากยุโรปน้อยมากŽ" นพ.โอภาสกล่าว

Relate topics

แสดงความคิดเห็น

กรุณาป้อน Username / Password ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้กับเว็บไซท์แห่งนี้ หรือ สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซท์
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง