ผู้ร้อง คือ เบญญาภา ศรีรุจี 084-9665980 ผู้ใช้ไฟฟ้าใน อ.หาดใหญ่ วันที่ 25 มีนาคม 2554 มีพนักงานการไฟฟ้าเพียงคนเดียวขับมอเตอร์ไซต์(สวมชุดของการไฟฟ้า) อำเภอหาดใหญ่ นำใบรายงานการใช้ไฟฟ้าและมาเรียกเก็บเงินค่าใช้ไฟฟ้าที่บ้านผู้ร้อง บริเวณ หมู่บ้านท่านองหอม ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ เจอคุณพ่อ อายุ 85 ปี คุณพ่อไม่มั่นใจค่าใช้จ่ายดังกล่าว เลยนำตัวพนักงานคนดังกล่าว มาที่บ้านพี่สาว ซึ่งอยู่ติดกัน เพื่อให้โทรศัพท์มายังคุณเบญญษภา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่พี่สาวไม่โทร จึงจ่ายเงินไป 1,000 บาท แก่พนักงานคนดังกล่าวไป พี่สาวนึกขึ้นได้ว่ามีขบวนการหลอกเก็บค่าไฟฟ้า จึงโทรมาคุณเบญญาภา เพื่อสอบถามว่า ค้างค่าไฟฟ้า 3 เดือนหรือเปล่า จึงทราบว่าไม่มีการค้างค่าไฟฟ้า เริ่มรู้สึกว่าถูกหลอกแล้ว.....ก็มีการแจ้งและประกาศให้ผู้ใหญ่บ้าน หลังจากนั้นก็ไปเก็บอีกหมู่ 6 ของพื้นที่ติดกัน ซึ่งถูกเก็บไปเหมือนกัน
ต่อมาวันที่ 26 มี.ค.54 ช่วงเช้า พนักงานคนเดิมาเก็บค่าไฟฟ้าอีก ชาวบ้านจึงโทรศัพท์มาที่ผู้ร้องเพื่อขอความช่วยเหลือและข้อเท็จจริง ต่อมาผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านก็มาล้อมสอบถามชายคนดังกล่าว ว่ามีเหตุผลอย่างไรมาเก็บค่าไฟฟ้าและมาถูกต้องตาม ชายคนดังกล่าวจึงโทรตามหัวหน้า ซึ่งอ้างว่าอยู่ กฟภ.หาดใหญ่ สักครู่ประมาณ 2 ชั่วโมง หัวหน้าคนดังกล่าวก็มา ระหว่างรอนั้นผู้ร้องได้โทรไปหา กฟภ.หาดใหญ่ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง ซึ่งได้แนะว่าให้แจ้งความเลย และผู้ร้องจึงขอให้การไฟฟ้ามาร่วมแจ้งความเอาผิดด้วย ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ กฟภ.หาดใหญ่มาจำนวน 2 คน (ทราบแต่ชื่อว่า ผู้ช่วย กฟภ.และอีกคนเป็นสมุบัญชีของ กฟภ.ซึ่งสำนักงานอยุ่ที่จุลดิส) ทั้งสองคน ก็ขอโทษชาวบ้านด้วย และยอมรับว่าเป็นพนักงานของ กฟภ. แต่ไม่ได้มีหน้าที่ต้องมากเก็บเงิน ยังได้คืนเงินที่เก็บไปของเพื่อนบ้านอีกหลังที่เก็บไปวันที่ 25 มี.ค. 54 (คืนทั้่งหมด) แต่ของผู้ร้องเค้าจะคืนให้ 107 บาท ค่าธรรมเนียมตัดหม้อเท่านั้น เราก็รับเงินดังกล่าวกลับมา
แต่เงินที่เก็บไปค่าไฟฟ้าคงค้างที่เรียกเก็บไปจะไม่คืนให้ เนื่องจากต้องรอให้ผู้ร้องนำเอกสารการชำระค่าไฟฟ้ามาเคลียร์ ต่อมาผู้ร้องจึงไปติดต่อที่จุลดิส...ผลการดูเอกสาร พนักงานบอกว่า ค้างอยู่ 2 เดือน ต่อมามีเอกสารจาก กฟภ.มาแจ้งอีกครั้งว่า ค้างอยู่แค่ 1 เดือนเท่านั้น
ต้องการความกระจ่าง...?