บทความ

เมื่อคิดจะซื้อรถต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง (ตอนที่ 2)

by twoseadj @December,08 2008 18.05 ( IP : 222...212 ) | Tags : บทความ
photo  , 300x329 pixel , 17,232 bytes.
  1. ซื้อรถมือสองเงินผ่อน ถามผู้รู้ก่อนน่าจะดี

    ขอยกตัวอย่างกรณีร้องเรียน เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2547 มีผู้บริโภครายหนึ่ง เขียนจดหมายมาว่า "ดิฉันได้ซื้อรถยนต์มือสองมาจากเต็นท์แหล่งรถจังหวัด.... เจ้าของเดิมชื่อนาย "เช่าซื้อ" ผู้ที่ทำสัญญาซื้อขายชื่อนาย "เต้นท์รถ" โดยนายเต้นท์รถบอกกับดิฉันว่ารู้จักสนิทสนมกันดีกับเจ้าของรถคันนี้เขาฝากขายเพื่อจะซื้อรถคันใหม่ ดิฉันจึงตกลงซื้อ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ให้วางดาวน์ก่อน 100,000 บาท และผ่อนชำระกับบริษัทสยามพาณิชย์ลิสซิ่งจำกัด อีก 4 งวด งวดละ 7,407 บาท ต่อจากนั้นให้ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมดภายในวันที่ 10 ก.ย. 47 ซึ่งดิฉันได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกประการ

    ดิฉันชำระค่างวดตรงตามกำหนดทุกเดือนโดยตลอด และในวันที่ 3 ก.ย. 47 ดิฉันได้นำเงินส่วนที่เหลือทั้งหมด คือ 162,954 บาท เพื่อไปชำระให้หมดเพราะอยากจะโอนรถเร็ว ๆ หลังจากที่ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว นายเต้นท์รถบอกว่า จะจัดการโอนรถให้เรียบร้อยภายใน 1 อาทิตย์

    เมื่อครบกำหนดตามที่นัดไว้ นายเต้นท์รถโทรศัพท์มาขอเลื่อนวันโอนรถ โดยบอกว่า นายเช่าซื้อ ซึ่งเป็นเจ้าของเดิมเซ็นต์เอกสารมอบฉันทะผิด ต้องเอาไปให้เซ็นต์ใหม่ ดิฉันก็ไม่ว่าอะไร ผ่านไปอีก 2 อาทิตย์ ดิฉันโทรไปถามนายเต้นท์รถอีก คราวนี้นายเต้นท์รถบอกว่า มีปัญหากับไฟแนนซ์ โดยทางบริษัทบอกว่ามีค้างชำระค่างวด ดิฉันได้นำเอกสารไปยืนยันว่า ไม่เคยค้างจ่ายก่อนกำหนดด้วยซ้ำไป นายเต็นท์รถก็พูดในทำนองจะขอเงินเพิ่ม อ้างว่าขาดทุนเพราะไม่ได้ตรวจสอบก่อนว่าเจ้าของเก่ามีค้างชำระค่างวด ดิฉันไม่ยอมเพราะเห็นว่ากำลังถูกเอาเปรียบ นายเต้นท์รถจึงขอเวลาบอกว่า ขอคุยกับไฟแนนท์อีกรอบว่า ค่างวดชำระค้างที่ใครกันแน่ ตอนนี้ดิฉันเริ่มสงสัยเพราะถูกเลื่อนนัดถึง 2ครั้ง จึงเรียนปรึกษาทางศูนย์พิทักษ์สิทธิว่าควรดำเนินการอย่างไรดี"

    กรณีตัวอย่างนี้เป็นปัญหายอดฮิดที่ทางศูนย์ได้รับคำปรึกษาบ่อย ๆ หากคุณคือคนหนึ่งที่คิดจะซื้อรถมือสองซึ่งผู้เขียนก็มีความเชื่อว่ารถมือสองดี ๆ มีถมไป คนขายดี ๆ ก็มีถมไป ที่สำคัญประหยัดเงินได้หลายแสนบาท แต่คุณต้องรอบคอบหาผู้รู้หาที่ปรึกษา เชื่อเถอะว่า ทุกอาชีพมีทั้งคนดีและคนไม่ดีฉะนั้นเราต้องรอบคอบให้มาก ๆ สำหรับกรณีข้างต้น ตอนนี้นายเต้นท์รถเขาก็ได้รับกรรมของเขาแล้วเขาก็คงสำนึกบ้างล่ะนะ

  2. มีรถแล้วอย่าลืมทำประกันภัยรถยนต์

    ลองดูกรณีนี้กัน "น้านิลคนรู้จักของผู้เขียนได้ซื้อรถกระบะมาคันหนึ่ง อายุรถคันดังกล่าวของแกก็ประมาณ 7 ปี สภาพรถ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่า เป็นรถที่พร้อมใช้งาน ทุก ๆ วัน แกก็ใช้ขับในหมู่บ้านไม่ได้ไปไหนไกลมาก จนมาวันหนึ่งคราวซวยมาเยือน แกขับรถไปชนรถเบ็นซ์เข้า กรณีนี้แกไม่ได้ตั้งใจเผอิญมีหมาน้อยวิ่งตัดผ่านหน้ารถทำให้ต้องหักหลบ ปรากฏว่า บริษัทประกันภัยของรถเบ็นซ์คู่กรณี ส่งใบเรียกเก็บค่าเสียหายจากแกเป็นเงิน 100,300 บาท (หนึ่งแสนสามร้อยบาทถ้วน) แกส่งเสียงอ่อย ๆ มาปรึกษาว่า แกต้องจ่ายไหม คำตอบคือ ต้องจ่ายเพราะแกเป็นคนผิดสำหรับกรณีนี้"

    นี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไมซื้อรถต้องมีประกันภัยรถด้วย เพราะเราไม่มีทางรู้ได้ว่า รถหนึ่งคันที่เราซื้อมาจะก่อปัญหาอะไรให้กับเราในอนาคต จะไปชนไปเสียอย่างไรบ้าง ถ้าเรามีแต่ปัญญาซื้อ แต่เราไม่รู้ว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรตามมาบ้าง เราก็อาจเป็นอย่างน้านิล แต่ถ้าหากเราได้ทำประกันภัยรถยนต์ไว้ หากเรามีปัญหาอย่างน้าเราไม่ต้องทำอะไรแต่จะเป็นภาระของบริษัทประกันภัยไปคุยกันเอง

ข้อมูลจากวารสารฉลาดซื้อ ฉบับที่ 64

แสดงความคิดเห็น

กรุณาป้อน Username / Password ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้กับเว็บไซท์แห่งนี้ หรือ สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซท์
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง