สมาคมเพื่อผู้บริโภคแห่งรัฐปีนัง(CAP:Consumer Association of Penang) ได้มีข้อเรียกร้องไปยังรมต.กระทรวงสาธารณสุขแห่งชาติมาเลเซีย เพื่อให้มีคำสั่งห้ามการใช้น้ำเชื่อมจากข้าวโพดประเภทฟรุ๊กโตสความเข้มเข้นสูง(HFCS:High Fructose Corn Syrup) เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหาร
HFCS ถือเป็นสารพิษสมญานามว่า "สารพิษผู้ใสซื่อ"ซึ่งนิยมนำมาผลิตอาหารเพื่อแทนน้ำตาลทั่วไปในอาหารแปรรูป สืบเนื่องจากสาร HFCS เป็นสารที่มีราคาถูก HFCS จึงถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในหลากหลายของอาหาร เช่น แยมสำหรับทาขนมปัง, ช็อคโกแลต, เบเกอรี่และเป็นส่วนผสมในน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง น้ำอัดลม เครื่องดื่มเสริมหรือชูพลังงาน, ขนมปัง, อาหารเช้าซีเรียล, ซอส, ของว่างและซุป
เครื่องดื่มและอาหารแปรรูปที่ทำจาก HFCS จะให้มีแคลอรี่สูงและคุณค่าทางโภชนาการต่ำ ซึ่งการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะการส่งเสริมให้เกิดโรคอ้วน จนในที่สุดก็นำไปสู่สภาวะโรคที่คุกคามสุขภาพที่รุนแรง เช่น โรคเบาหวานประเภท 2 ความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจ
เช่นเดียวกับน้ำตาล, HFCS เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการแต่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ สามารถทำให้เกิดโรคร้ายแรงตลอดจนความผิดปกติทางสุขภาพของผู้บริโภคได้ สอดคล้องกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า HFCS เป็นพิษต่อสุขภาพของมนุษย์มากกว่าน้ำตาลธรรมดา
ความเป็นพิษเกิดขึ้นเนื่องจาก HFCS เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะต้องเปลี่ยนแปลง(metabolised)ในตับก่อน เพื่อให้กลายเป็น fructose เพื่อจะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเราได้ ตับมีการเปลี่ยนแปลง fructose ไปเป็นไขมันอย่างรวดเร็ว แต่ต่างจากน้ำตาลกลูโคสซึ่งกระบวนการจะดำเนินไปอย่างช้าๆ เมื่อเปลี่ยนเป็นไขมันแล้วจะถูกเก็บไว้ในเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียงหรือภายในตับตัวเอง (จนนำไปสู่โรคตับไขมัน) โดยในกระบวนการนี้ไม่ก่อให้เกิดภาวะโรคอ้วน แต่จะเร่งอัตราโดยที่คนอ้วนอยู่แล้วหรือชอบบริโภคไขมันอิ่มตัว
จากการศึกษาพบว่าmetabolisedของfructoseที่ตับ สามารถทำให้เสียการหลั่งอินซูลินและ เอนไซม์leptin เพราะปกติสัญญาณจากเอ็นไซม์ทั้งสองจะส่งไปยังสมองว่าเรารู้สึกอิ่ม พอกิน หรือหิว เมื่อมันเสียการทำงานไป โดยเฉพาะยิ่งการผลิตอินซูลินไม่ได้กระตุ้นให้สร้างความรู้สึกว่าเราอิ่ม เราก็จะกินอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ กินเกินกว่าที่เราควรจะได้รับและส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น
ยิ่งการมีปริมาณฟรักโทสมากเกินไป เมื่อเข้าสู่ตับ ตับจะไม่สามารถประมวลผลได้ว่า ทุกตัวที่จะใช้เป็นน้ำตาล ตับก็จะการทำเปลี่ยนเป็นไขมันจากฟรักโตสและส่งไขมันเข้าสู่กระแสเลือดในรูปไตรกลีเซอไรด์ ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
มีหลักฐานเพิ่มขึ้นว่า การบริโภคฟรุกโตสมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินและในที่สุดก็จะกลายเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และบางส่วนของผลกระทบนี้อาจมาจากสารเคมีในเครื่องดื่มที่ทำปฏิกิริยากับ HFCS ที่ใช้ในเครื่องดื่ม
เพราะฟรุกโตสจะต้องถูกดำเนินการแปรรูปอย่างสมบูรณ์ในตับ หากดำเนินการในส่วนเกิน, HFCS ไม่เพียงแต่อยู่ในกระแสเลือดจำนวนมาก ก็ยังสามารถครอบงำความสามารถในการประมวลผลของตับ จะนำไปสู่ความเสียหายที่ตับไม่แตกต่างชนิดที่มีผลต่อติดสุรา ในการศึกษาสัตว์ได้รับอาหารที่สูงใน HFCS ประสบโรคตับแข็งรุนแรงของตับ เนื้อเยื่อตายและการทำงานของตับไม่ดี ในความเป็นจริงของพวกเขาดูมากตับเช่นผู้ที่ติดสุรา
ระหว่างผลกระทบอื่น ๆ , HFCS ได้รับเกี่ยวข้องในระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงและการสร้างเลือดอุดตัน มีการตรวจพบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวเพื่อให้พวกเขาไม่สามารถที่จะป้องกันตัวที่เป็นอันตรายต่อผู้รุกรานจากภายนอกร่างกาย
แปลและเรียบเรียงโดย เภสัชกร สมชาย ละอองพันธุ์ ผู้ประสานงานวิชาการศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภคจังหวัดสงขลา
http://www.consumer.org.my/index.php/food/safety/151-ban-the-use-of-high-fructose-corn-syrup-hfcs
Relate topics
- ใบสำคัญรับเงิน
- ศูนย์เรียนรู้วิถีธรรมชาติ จะนะ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย โดย อ.จินตนา เจริญเนตรกุล ได้จัดอบรมการแปรรูปอาหารทะเล เช่น การทำข้าวเกรียบ
- บรรยากาศการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติ สุดยอดความอลังการ หนึ่งในกิจกรรมงานอาหารของแม่ เพื่อเทิดพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน ณ ถนนสเน่หานุสรณ์
- บรรยากาศงานตลาดนัดเกษตรกรโอเดียน ประจำเดือนกรกฎาคม เมื่อวันที่ 4 ก.ค.58 โดยภายในตลาดไดมีคุณวรรณา สุวรรณชาตรี ผู้ประสานงานโครงการประชุมและเยี่ยมชมตลาด
- วันนี้ โครงการอาหารเป็นยา ปีที่ 2 อาหารเป็นยาสมุนไพร: กรณีศึกษาจังหวัดสงขลา (Food as herbal medicine: A case study of Songkhla province)