บทความ

ไตรโคลซาน ภัยมืดที่ต้องเฝ้าระวัง

by twoseadj @December,01 2008 19.15 ( IP : 114...121 ) | Tags : บทความ

ไตรโคลซาน : ประโยชน์ในอุตสาหกรรม

ไตรโคลซาน (Triclosan) คือสารสังเคราะห์ ที่มีประสิทธิภาพต้านเชื้อจุลินทรีย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อแบคทีเรีย และยังสามารถต้านเชื้อราและไวรัสบางชนิดได้ดี ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกาว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัย มีการนำมาใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลก

คำอธิบายภาพ ไตรโคลซาน เป็นส่วนผสมสำคัญเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์เกือบทุกชนิด ตั้งแต่ในโรงพยาบาล เช่น ผ้ากรอซทำความสะอาดคนไข้ก่อนการผ่าตัด ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดห้องคนป่วย สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย สบู่อาบน้ำ สระผม ล้างหน้า ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ยาแก้เหงือกอักเสบ ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ ของเล่นเด็ก ผ้าและผ้าพลาสติก เป็นสารกันบูดในอาหาร นอกจากนี้ยังเป็นตัวยาสำคัญในผลิตภัณฑ์แก้สิวหลายยี่ห้อ (ความเข้มข้น 0.2-1.0%) อีกด้วยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ปริมาณที่นิยมใส่ในผลิตภัณฑ์เพื่อทำหน้าที่เป็นสารกันเสียในการต้านเชื้อจุลินทรีย์คือ สูงสุดไม่เกิน 0.3% สำหรับเครื่องสำอาง และในประเภทอาหารคือ 5 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม

ไตรโคลซาน : การปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม และปัญหาทางการแพทย์

ไตรโคลซาน ได้ถูกนำมาใช้เป็นเวลากว่า 35 ปี ทั้งชนิดและจำนวนสินค้าที่ใส่สารไตรโครซานทั้งของกินของใช้รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ในโรงพยาบาลมีเพิ่มมากขึ้นทุกปี เนื่องจากกระแสความกลัวการแพร่กระจายของเชื้อโรคในสิ่งแวดล้อมเป็นเหตุปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้สังคมของโลกมนุษย์มีการผสมสารต้านเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าวลงในผลิตภัณฑ์เกือบทุกชนิดก็ว่าได้

ความนิยมสารไตรโคลซานมากกว่าสารต้านจุลินทรีย์ชนิดอื่น ๆ เนื่องมาจากประสิทธิภาพการต้านเชื้อจุลินทรีย์อย่างได้ผล และสารชนิดนี้ยังมีคุณสมบัติที่ดีคือมีความคงตัวในอุณหภูมิที่สูงถึง 200 °C (ชนิดอื่น ๆ ประสิทธิภาพการต้านเชื้อมักจะถูกทำลายหรือด้อยลงในอุณหภูมิสูงมากกว่า 50°C) ทำให้สะดวกต่อการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมทุกชนิด ปริมาณไตรโคลซานที่ใช้เพิ่มขึ้นมากมายในโลก ทำให้นักวิชาการสิ่งแวดล้อมเป็นห่วงว่าทั้งในอากาศ น้ำเสีย อาจมีการปนเปื้อนสารดังกล่าวตกค้างสะสมได้ ส่วนนักวิชาการทางการแพทย์เป็นห่วงว่า การที่เราใช้สารต้านเชื้อจุลินทรีย์ชนิดนี้มากเกินไป จะก่อให้เกิดปัญหาทางการแพทย์ กล่าวคือ เชื้อโรคมีการพัฒนาสายพันธุ์และดื้อต่อยาปฏิชีวนะที่ใช้สำหรับรักษาโรคติดเชื้อรุนแรง และในอนาคตหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ มนุษย์คงต้องหายาปฏิชีวนะที่เข้มข้นและแรงขึ้นในการต่อสู้กับเชื้อโรคที่นับวันจะดุและดื้อยามากขึ้น

จากงานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ปี ค.ศ.2007 พบว่าไตรโครซานสามารถสลายตัวด้วยรังสีดวงอาทิตย์ทั้งในน้ำจืดและน้ำทะเล มีครึ่งอายุสั้นเพียง 4-8 วันเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการสะสมของสารดังกล่าวในสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ส่วนปัญหาทางการแพทย์ที่พบว่าหากยังมีการใช้สินค้าที่ผสมสารต้านเชื้อจุลินทรีย์มากมายเช่นในปัจจุบัน จะทำให้การรักษาโรคติดเชื้อยากขึ้น นักวิชาการจึงแนะนำว่าเราไม่จำเป็นต้องล้างมือล้างหน้าอาบน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์โดยไม่มีเหตุจำเป็น รวมถึงสินค้าอุปโภค เช่น น้ำยาซักผ้า เครื่องใช้ในครัวเรือนทั้งหลาย หากช่วยกันรณรงค์การงดเว้นสารต้านเชื้อจุลชีพได้น่าจะดีกว่า แต่หันมาให้ความสำคัญกับการรักษาสุขลักษณะที่ดีมากกว่า

ไตรโคลซาน : ผลทางคลินิกของการสะสมในร่างกายของผู้บริโภค

ผลจากการวิจัยทางคลินิกล่าสุด (2006, มกราคม 2007)ในหญิงที่ให้นมบุตรและเป็นผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ผสมไตรโคลซาน พบปริมาณสารดังกล่าวในกระแสเลือดและในน้ำนมแม่ที่ให้นมบุตร

ไม่ต้องสงสัยว่าไตรโคลซานสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางกระเพาะอาหารและทางผิวหนังได้และต่อเนื่องไปยังกระแสเลือดและน้ำนมที่ให้บุตรได้ แต่ปริมาณที่พบในกระแสเลือดของผู้เป็นแม่จะสูงกว่าในน้ำนม นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ได้ทำการวิจัยต่อเนื่องในสัตว์ทดลอง (หนู) เพื่อดูการสะสมและผลเสียที่อาจจะส่งต่อจากแม่สู่ลูกผ่านทางน้ำนมแม่ว่า จะส่งผลเสียสะสมถึง 2 ช่วงอายุคนหรือไม่

พบว่าเนื่องจากปริมาณที่พบในน้ำนมมีน้อยมาก จึงไม่พบข้อบ่งชี้อย่างมีนัยสำคัญว่าจะทำให้ทารกที่ดื่มนมแม่มีความเสี่ยงต่ออันตรายจากไตรโครซานถึง 2 ช่วงอายุคนได้ ซึ่งความหมายคือปลอดภัยต่อเด็กทารก อย่างไรก็ตามการวิจัยในเรื่องนี้จะยังเข้มข้นมากขึ้นเพื่อหาขอสรุปที่ชัดเจนถึงความเสี่ยงที่จะใช้สารไตรโคลซานอย่างกว้างขวางเช่นในปัจจุบัน

ไตรโคลซาน : เป็นสารก่อมะเร็งหรือไม่

นักวิชาการที่ออกมารณรงค์ให้คณะกรรมการอาหารและยา สหรัฐอเมริกา พิจารณาถอดถอนหรือควบคุมการใช้ไตรโคลซานอย่างเร่งด่วน ให้เหตุผลว่า ไตรโคลซานจะถูกย่อยสลายกลายเป็นสารไดออกซิน (Dioxin) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง โรคตับอักเสบ เมื่อได้รับการสัมผัสบ่อย ๆ ทำให้เด็กทารกคลอดผิดปกติ (ไม่สมประกอบ) อาจมีผลทำให้ฮอร์โมนเพศผิดปกติ รวมทั้งอาจทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอและบกพร่องได้ นอกจากนี้สารไตรโคลซานที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ยาสีฟัน หรือ ครีมอาบน้ำ ล้างมือ เมื่อไตรโคลซานผสมกับคลอรีนในน้ำประปา จะให้ก๊าซคลอโรฟอร์ม ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่รู้จักกันดีอีกด้วย นักวิจัยที่ทำการวิจัยเรื่องดังกล่าวมีมากมายแต่ยังพอสรุปได้ว่าปริมาณที่พบในสิ่งแวดล้อม และในร่างกายมีน้อยมากจนไม่มีนัยสำคัญทางการแพทย์ที่จะก่อให้เกิดผลเสียตามที่เป็นห่วงกัน

ข้อแนะนำสำหรับผู้บริโภค

ข้อมูลทั้งหมดผู้เขียนได้รวบรวมและสืบค้นจากบทความวิจัยทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือ ยังไม่พบข้อสรุปหรือการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการใช้สารดังกล่าวจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ทั้งจากประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป หรือ ไทย เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่มากเพียงพอที่จะสรุปว่าสารไตรโครซานเป็นอันตรายต่อมนุษย์หรือสิ่งแวดล้อม คาดว่ายังคงมีการทำวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อหาข้อสรุปให้สังคม

แสดงความคิดเห็น

กรุณาป้อน Username / Password ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้กับเว็บไซท์แห่งนี้ หรือ สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซท์
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง