เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

สธ.จับมือ ตำรวจ เร่งขยายผลจัดการคลินิกทำแท้งเถื่อน เตรียมทลายอีก 1 แห่ง จาก 5 - 6 แห่งในกทม.-ปริมณฑล เร็ว ๆ นี้ ขณะที่การพิสูจน์ซากทารกจะทราบผลอีก 1 เดือน เผยอาจไม่ตรวจพิสูจน์ทางพันธุกรรมทั้งหมด ด้านสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ระบุผลสอบทารกรอดชีวิตไม่ได้แจ้งเกิดในโรงพยาบาล แต่แจ้งเกิดที่อำเภอในต่างจังหวัด

นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีซากทารก 2,000 ศพจากการทำแท้งเถื่อนว่า ขณะนี้กำลังขยายผลการสอบสวนหาสถานที่ทำแท้งเถื่อนเพิ่ม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าเร็วๆ นี้จะสามารถจับกุมคลินิกทำแท้งเถื่อนในกรุงเทพ-ปริมณฑลได้ อีก 1 แห่ง หลังจากได้รับเบาะแสว่ามีคลินิกทำแท้ง 5-6 แห่ง อย่างไรก็ตามยอมรับข่าวการพบซากทารกที่เกิดในวัดไผ่เงินฯ สร้างความหดหู่ใจกับประชาชนที่เป็นพุทธศาสนิกชน อย่างมาก แต่การผลักดันให้มีคลินิกทำแท้งถูกกฎหมายถือเป็นเรื่องปลายเหตุ การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุคือการวางแผนครอบครัว และวัยรุ่นควรรู้จักป้องกัน ส่วนการพิสูจน์ซากทารกนั้น คาดว่าต้องใช้เวลานานนับเดือนจึงจะทราบผล เพราะมีจำนวนมาก และอาจไม่จำเป็นต้องดำเนินการตรวจพิสูจน์ทางพันธุกรรมทั้งหมด แต่จะเน้นการตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตาย

พ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ขณะนี้จากการประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ทราบข้อมูลว่าการแจ้งเกิดในกรณีเด็กที่รอดชีวิตจากการทำแท้งนั้น ไม่ได้มาจากการแจ้งเกิดที่สถานพยาบาล แต่เป็นการแจ้งเกิดกับทางอำเภอในต่างจังหวัด เพื่อขอให้ออกสูติบัตร โดยการแจ้งเกิด ว่า คลอดที่บ้าน หรือคลอดใต้ต้นไม้ ระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล มีให้พบเห็นทั่วไปในต่างจังหวัด เพราะหญิงใกล้คลอดบางราย เกิดเจ็บครรภ์ก็อาจคลอดระหว่างทางได้ ซึ่งการคลอดลักษณะเช่นนี้ส่วนใหญ่เด็กไม่มีอันตราย และไม่จำเป็นต้องเข้าตู้อบ อย่างไรก็ตามเมื่อพบว่าการคลอดดังกล่าวไม่ได้มาจากสถานพยาบาล แต่ก็ต้องมีการขยายผลสืบสวนว่าเจ้าหน้าที่มีการจดแจ้งออกใบสูติบัตรให้โดยสุจริตหรือไม่